ชีวิตใหม่! ปวีณาประสานสถานทูตไทยในบาห์เรน ช่วยเหยื่อค้ามนุษย์

มูลนิธิปวีณาฯ ประสานสถานทูตไทยในบาห์เรน เข้าช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ หลังผู้เสียหายร้องเรียน ถูกหลอกมาทำงาน ก่อนบังคับค้าประเวณี!

ปวีณา ช่วยเหยื่อพ้นขุมนรกบาห์เรนกลับไทย ล่าสุด ผบก.บก.ปคม. สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. ไล่ล่าจับแก๊งนายหน้าค้ามนุษย์ข้ามชาติในไทยได้แล้ววันนี้

วันนี้ (14 ต.ค. 64) เวลา 06.00 น. กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิศร สุวรรณรักษ์ ผกก.6 บก.ป พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมกลุ่มผู้ร่วมขบวนการหลอกลวงผู้เสียหายไปทำงานต่างประเทศ โดยสามารถจับกุม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี ได้ที่บริเวณ ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากประชาชนว่ามีแก๊งต้มตุ๋น ลวงผู้เสียหายไปทำงานต่างประเทศ โดยชักชวนให้ไปทำงานนวดสปาที่ประเทศบาห์เรน อ้างว่าได้ค่าแรง 50,000 – 70,000 บาทต่อเดือน ต่อมาเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ กลุ่มคนร้ายจะพาผู้เสียหายไปทำหนังสือเดินทางและจองตั๋วเครื่องบิน โดยผู้เสียหายไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่เมื่อผู้เสียหายเดินทางไปถึงประเทศบาห์เรน กลุ่มคนร้ายจะกักขังผู้เสียหายให้อยู่แต่ในห้องพัก แล้วบังคับให้ขายบริการทางเพศ มีการรับ-ส่ง พาผู้เสียหายไปขายบริการทางเพศยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งต่อมาทางผู้เสียหาย นางสาวแอน (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือมาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ทางมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานขอความร่วมมือกับสถานทูตไทยในประเทศบาห์เรน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายและพากลับมายังประเทศไทยได้ในที่สุด

โดยเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2564 สถานทูตไทยประจำบาห์เรน ได้แจ้งตำรวจบาห์เรนบุกเข้าช่วยเหลือหญิงไทย 10 คน และแยกไปพักที่สถานพักพิงในบาห์เรน ตำรวจบาห์เรนใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเศษ จึงสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่บาห์เรนได้ทั้งหมด 6 ราย

ปลายเดือน พ.ค. 2564 ตำรวจ ปคม. ได้ติดต่อไปให้ปากคำและติดตามคดี ตำรวจได้รวมรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ โดยในวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้นำหมายค้นเข้าค้นบ้านพักของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ อายุ 54 ปี ที่ ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยสามารถจับกุม น.ส.เอฯ พร้อมกับตรวจยึดของกลาง เป็นโทรศัพท์มือถือและสมุดบัญชีธนาคาร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว จนกระทั่งทราบตัวกลุ่มคนร้าย โดยพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการจำนวน 5 คน ซึ่งกระทำการในลักษณะที่มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.เอ (นามสมมุติ) ความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6,10 ประกอบมาตรา 52 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 9,12 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 283,310

สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใด ได้ลงมือกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามที่ได้สมคบกัน, ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี โดยใช้อุบายหลอกลวง ไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้น จะได้กระทำภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขังกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายหรือขู่เข็ญด้วยประการใดๆ เพื่อข่มขืนใจให้ผู้อื่นนั้นกระทำการค้าประเวณี, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาในเบื้องต้นยังให้การภาคเสธ

สำหรับผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่ยังหลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. ได้ดำเนินการขอยกเลิกหนังสือเดินทาง ต่ออธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเร่งดำเนินการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดรายอื่น ๆ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน น.ส.แอน (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย เล่าว่า ถูกคนรู้จักชักชวนไปทำงานนวดแผนไทยในประเทศบาห์เรน เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 พอไปถึงก็ถูกยึดพาสปอร์ต บังคับค้าประเวณี ข่มขู่ ถ้าขัดขืนจะโยนลงตึกฆ่าให้ตาย ต้องรับแขก 24 ชม. แต่ละครั้งได้เงิน 150-300 บาท เท่านั้น นอกนั้นแม่แท็ก (คำเรียกชื่อย่อแม่เล้าในบาห์เรน) เก็บเงินไปหมด เจ้าของร้านแม่แท็กเป็นหญิงไทย ซึ่งมีสามีเป็นชาวบาห์เรน ทุกคนจะเรียกว่า “ตา จ่อย” เจ้าของร้านแจ้งยอดหนี้ให้ น.ส.แอน (นามสมมุติ) เซ็นรับเป็นหนี้ 140,000 บาท อ้างเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร ต้องทนทำงานรับแขกมาจนถึงคืนวันที่ 8 ม.ค. 2564 จึงแอบส่งข้อความมายังเพจเฟซบุ๊กของมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเหลือออกจากขุมนรกบาห์เรน และได้เดินทางกลับไทยวันที่ 28 ก.พ. 2564

ทั้งนี้ นางปวีณา กล่าวเตือน หญิงไทย ที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ขอให้คิดให้ดี เมื่อถูกหลอกแล้ว ไม่ใช่ว่าจะช่วยได้ทุกคน และควรที่จะสอบถามไปยังกระทรวงแรงงานว่าประเทศนั้นๆ มีงานให้ทำลักษณะใดบ้าง โดยทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีร่วมกับตำรวจ ปคม. กระทรวงการต่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือ โดยจะประสาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พม. และกระทรวงยุติธรรมให้การช่วยเหลือเยียวยาให้กับเหยื่อ จนเสร็จสิ้นกระบวนการยุติธรรมต่อไป

สุดท้ายนี้หากประชาชนท่านใดมีเบาะแส หรือได้รับความเดือนร้อน จากการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาได้ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ชั้นที่ 4 ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ หรือเพจเฟซบุ๊กกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์

คลิปอีจันแนะนำ
มาถึงจุดนี้เเล้วเหรอ เเย่งฉีดวัคซีนโควิด ?