(4 พ.ค.65) ที่ห้องประชุม ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงผลการขยายผลจับกุม แม่เล้าและผู้ซื้อบริการ เพิ่มอีกจำนวน 12 ราย อายัดเรือนจำ 2 ราย และยังติดตามจับกุมเพิ่มอีก 4 ราย
คดีนี้ยังมีผู้เสียหายที่ถูกบังคับค้าประเวณีเพิ่มเติม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ร่วมกับ ตำรวจ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ,สภ.ขุนทะเล ,เจ้าหน้าที่ พม. และ NGO ร่วมกันบูรณาการ ข้อมูลจนสามารถช่วยเหลือเหยื่อเครือข่ายค้ามนุษย์ที่ถูกบังคับค้าประเวณีได้เพิ่มอีก 3 ราย
จากการสอบสวนข้อมูล เหยื่อ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ได้นำข้อมูลดังกล่าวไปขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับเครือข่ายค้ามนุษย์เพิ่มเติมได้อีก 5 ราย และยังสามารถดำเนินคดีกับผู้ใช้บริการทางเพศอีก 13 ราย รวมทั้งสิ้น 18 ราย จึงให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นคำร้องขอหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวทั้งหมด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
ในส่วนของผู้ร่วมเครือข่ายค้ามนุษย์จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน
1.ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ในการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี โดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี
2.ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี แม้ผู้นั้นจะไม่ยินยอมก็ตาม
3.โดยทุจริตร่วมกันรับไว้ เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป ซึ่งบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
4.ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร
5.ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม” โดยมีอัตราโทษสูงสุดจำคุกตั้งแต่ 8 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 8 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท
ผู้ใช้บริการทางเพศจะถูกดำเนินคดีในข้อหา
1.กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
2.กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
3.พรากหรือร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร
4.พาหรือร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม
5.ร่วมกันชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กกระทำผิดและกระทำชำเราเพื่อสำเร็จความใคร่ของตนเองหรือผู้อื่นแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีในสถานการค้าประเวณี” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยต่ออีกว่า นอกจากนี้ จากการสืบสวนพบว่า มี รองอธิบดี กรมกิจการเด็กและเยาวชน และครูพี่เลี้ยงภายในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้พยายามแทรกแซงการดำเนินการตามกฎหมายของตำรวจ ทั้งยังพยายามข่มขู่พยานเพื่อไม่ให้มีการให้ข้อมูลในการขยายผลของตำรวจ จึงได้สั่งการให้ตำรวจดำเนินคดีกับตัวเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามแทรกแซงกระบวนการดังกล่าวในฐานความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามกฎหมายโดยเด็ดขาด
“ในคดีดังกล่าว ยังคงมีผู้เสียหายที่ถูกบังคับค้าประเวณีเพิ่มอีก ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งตัวเครือข่ายบังคับค้าประเวณี และตัวผู้ใช้บริการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเหยื่อเพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดปัญหาการนำเด็กและเยาวชนมาบังคับค้าประเวณีให้หมดไปจากสังคม”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว