มือฆ่า นทท. รับ ตกงานไม่มีเงิน ชิงทรัพย์ แหม่มสวิตฯ

มือฆ่า นักท่องเที่ยวภูเก็ต สารภาพสิ้น ตกงานไม่มีเงิน เข้าป่าหาของกิน เจอแหม่มสวิตฯ จึงชิงทรัพย์ ฆ่าหมกป่า ได้เงินไป 300 บาท

(8 ส.ค.64) ที่ห้องประชุม ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบช.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม น.ส.นิโคล โซเว่น ไวครอป์ นักท่องเที่ยวชาวสวิสเซอร์แลนด์เสียชีวิตที่น้ำตกโตนยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต

อ่านเรื่องราวเกิดเหตุที่นี่ค่ะ ฆาตกรรม น.ส.นิโคล โซเว่น ไวครอป์

เปิดคำสารภาพ มือฆ่าอำพราง นทท. แซนด์บ็อกซ์

พล.ต.อ.สุวัฒน์ เผยว่า หลังเกิดเหตุได้มีการสืบสวนจนทราบว่า ผู้เสียชีวิต คือ นางนิโคล โซเว่น ไวครอป์ อายุ 57 ปี นักท่องเที่ยวชาวสวิสเซอร์แลนด์ มีตำแหน่ง เป็นรองผู้อำนวยการแห่งสมาพันธรัฐสวิสเซอร์แลนด์ และเป็นนักท่องเที่ยวในโครงการ ” Phuket Sandbox ” โดยเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 ครบกำหนตอนุญาตอยู่ในประเทศวันที่ 26 ส.ค.64

ในระหว่างที่พักในภูเก็ต ได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จากการสืบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64 เวลา 11.30 น. ผู้เสียชีวิตได้ออกจากโรงแรมที่พักบริเวณอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ไปเพียงลำพัง เดินเท้าไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังน้ำตกโตนยน และได้ไปถึงบริเวณทางขึ้น เวลา 11.49 น.

ระหว่างทางมีกล้องวงจรปิด จับภาพผู้เสียชีวิตได้ตลอดเส้นทาง และไม่ได้กลับออกมาจากที่เกิดเหตุอีกเลย จากข้อมูลกล้องวงจรปิดบริเวณทางขึ้นน้ำตก พบผู้ต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์ ขึ้นไปก่อนผู้เสียชีวิตจะมาถึงประมาณ 12 นาที และอีกประมาณ 3 ชม. ผู้ต้องสงสัยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับออกจากที่เกิดเหตุ

จากการสืบสวนทราบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เป็นของนายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ อายุ 27 ปี ชาว ต.ปากคลอง อ.กลาง จ.ภูเก็ต มีที่พักอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ จึงเชิญตัวมาชักถาม เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลที่ปรากฎอยู่ในภาพวงจรปิด ตรวจตามร่างกาย พบร่องรอยบาดแผลที่เพิ่งเกิดหลายแห่ง สภาพบาดแผลเกิดมา 4 – 5 วัน จากการซักถามพบพิรุธต้องสงสัยให้ถ้อยคำไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหลายประการ และให้การรับสารภาพความจริงในเวลาต่อมาว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าด้วยตนเอง

นายธีรวัฒน์ รับสารภาพอีกว่า ตนตกงานและไม่มีงานทำเกือบ 2 ปี พิษจากโควิด-19 ในวันเกิดเหตุจึงได้เดินขึ้นไปบนน้ำตก เพื่อหาของป่า ระหว่างนั้นพบผู้ตายกำลังเล่นน้ำ จึงคิดว่ามีทรัพย์สิน เลยเดินเข้าไปล็อคคอจากด้านหลัง เพื่อต้องการชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายเกิดขัดขืน พยายามต่อสู้ จึงบีบคอแล้วจับกดน้ำ หลังจากที่แหม่มเสียชีวิต จึงหาผ้าใบที่พบอยู่ในละแวกนั้นมาคลุมอำพรางร่าง ก่อนที่จะรื้อค้นทรัพย์สินในเป้ของผู้ตายได้เงินสดไป 300 บาท แล้วกลับบ้าน ทำตัวตามปกติ แต่ก็ติดตามข่าวนี้ตลอด โดยที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

จากนั้นตำรวจได้นำตัวกลับไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.วิชิต ก่อนที่จะส่งฟ้องฝากขังที่ศาล จ.ภูเก็ตตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป