จากกรณีที่ นายมนตรี ใหญ่กระโทก หัวหน้า รปภ. คอนโดมิเนียม แห่งหนึ่งย่านบางแค พื้นที่รับผิดชอบของ สน.เพชรเกษม ก่อเหตุ ข่มขืนลูกบ้าน ก่อนหลบหนีไป ซึ่งเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 ม.ค. 65 ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายมนตรีได้แล้ว หลังหนีมากบดานที่บ้านแม่ จ.สระแก้ว โดยผู้ต้องหายอมรับว่า แอบชอบผู้เสียหายมานาน และก่อนก่อเหตุมีการเสพยาเสพติด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างมาก เนื่องจาก มีการตรวจสอบประวัตินายมนตรี แล้วพบว่า เคยต้องโทษคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี แต่เหตุใด บริษัท รปภ. ต้นสังกัด ถึงได้ออกใบอนุญาต ประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย ให้แก่นายมนตรี ซึ่งเรื่องนี้ มีรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งให้มีการตรวจสอบการออกใบอนุญาต ประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย ให้แก่ นายมนตรี ว่ามีการบกพร่องในส่วนใดหรือไม่
หรับนายมนตรี จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่า นอกจากคดีกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่ จ.สระแก้ว แล้ว เมื่อปี 2544 นายมนตรี เคยถูกดำเนินคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานมาแล้ว
จากนั้นในปี 2556 ถูกดำเนินคดี ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่ จ.สระแก้ว และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2560
กระทั่งปี 2562 นายมนตรี ได้มาสมัครเข้าเป็น รปภ.
และในปี 2564 นายมนตรี ก็ได้ก่อเหตุข่มขืนลูกบ้านสาว กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ซึ่งตาม พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 ระบุหนึ่งในลักษณะต้องห้ามว่า
(3) เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกสำหรับความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ หรือความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน หรือความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปีก่อนวันขอรับใบอนุญาตและมิใช่ความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา
แต่จากการตรวจสอบ กลับพบว่า ใบอนุญาตให้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของ นายมนตรี ถูกออกเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 62
ซึ่งถ้านับจากเวลาที่นายมนตรีพ้นโทษแล้ว เป็นเวลาเพียงแค่ 2 ปี แต่คดีแบบนี้โดยหลักกฎหมายแล้ว จะไม่มีเงื่อนไขการรอให้พ้นโทษ 3 ปี
จากกฎหมายข้อนี้ ทำให้ต้องย้อนกลับมามองแล้วว่า เหตุใด ทำไมถึงมีการออกใบอนุญาตประกอบอาชีพให้นายมนตรี ทั้งที่มีคุณสมบัติต้องห้ามคือ มีความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญามาก่อน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบ ว่าขาดตกบกพร่องข้อมูลในส่วนใดหรือไม่!
