ล่า หัวหน้า รปภ.หื่นกาม ข่มขืนลูกบ้าน

ช่วยกันเป็นหูเป็นตา! ล่าตัว หัวหน้า รปภ.ข่มขู่ ลูกบ้านสาว คอนโดมิเนียมย่านเพชรเกษม

วันนี้ (5 ม.ค.65) เวลา 01.00 น. สน.เพชรเกษม รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่ง ว่า เธอถูกกระทำชำเรา และ ผู้ต้องหายังอยู่ในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียมแห่ง หนึ่งย่านเพชรเกษม กทม. หลัง ตำรวจ สน.เพชรเกษม ได้รับแจ้ง จึงได้สั่งการให้สายตรวจรีบไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ตำรวจได้พบกับผู้เสียหาย เธอ อายุ 36 ปี กำลังยืนร้องไห้ เนื้อตัวสั่น อายุ 36 ปี รอแจ้งความด้วยอาการตื่นตระหนกว่า หลังกลับมาจากทำธุระนอกบ้าน กำลังจะเข้า แต่เข้าไม่ได้เพราะลืมกุญแจไว้ในห้อง จึงลงมาติดต่อ รปภ.ด้านล่าง ขอให้ นายมนตรี ใหญ่กระโทก หัวหน้าชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ ช่วยขึ้นมาเปิดประตูห้องให้ แต่ก็เปิดไม่ได้จึงโทรศัพท์ตามช่างกุญแจให้มาช่วยเปิด

หลังเปิดประตูห้องได้ นายมนตรี ได้ลงลิฟต์ไปส่งช่างกุญแจ สักพักเธอได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง เมื่อเปิดออกไปเห็นว่าเป็นนายมนตรี ลักษณะคล้ายคนเมา เขาผลักเธอเข้าไปในห้องจนเสียหลัก แล้วล็อกประตู

จากนั้นนายมนตรีได้ใช้กำลังบังคับใส่กุญแจมือเธอ เธอหมดหนทางสู้ แถมยังข่มขู่ไม่ให้เธอเสียงดัง เธอทำได้เพียงพยายามอ้อนวอนขอร้องแต่ไม่เป็นผล สุดท้ายถูกนายมนตรีข่มขืนจนสำเร็จ 1 ครั้ง ก่อนไขกุญแจมือออกแล้วเผลอนอนเอาแรง นาทีนั้น เธอจึงฉวยโอกาสรีบใส่เสื้อผ้าวิ่งลงมาชั้นล่างโทรแจ้ง 191

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจ 6 นาย พยายามจะขึ้นไปตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ และจับกุมคนร้าย แต่ฝ่ายนิติฯ อาคาร และ รปภ.ของคอนโดมิเนียม กลับไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมให้ขึ้นไป แม้กระทั่งให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเป็นถึงหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย แต่ยอมให้ดูจอมอนิเตอร์ภาพจากกล้องวงจรปิด ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง

ทำให้ทราบว่าหลังก่อเหตุนายมนตรีได้ลงลิฟต์ และนำกุญแจมือที่ใช้ก่อเหตุใส่ถุงพลาสติกไปทิ้งไว้ที่ข้างถังขยะห้องน้ำชั้นล่าง เมื่อตามไปตรวจสอบที่ห้องพัก นายมนตรีในซอยเพชรเกษม 47 ก็ไม่พบ

ล่าสุด พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. หรือ โฆษก บช.น. เผยถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวน จะขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น และบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล” ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัว ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของแหล่งที่อยู่ของคนร้าย

ส่วนการดำเนินคดีกับนิติบุคคลฯ ของคอนโดมิเนียม ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจในการเข้าไปจับกุมคนร้าย ซึ่งอ้างว่าไม่มีหมายค้นและอยู่ในยามวิกาลนั้น กรณีนี้ แม้ว่าจะไม่ได้มีหมายค้นก็ตาม แต่ตำรวจสามารถเข้าไปตรวจสอบติดตามจับกุมคนร้ายได้ เนื่องจากเป็นเหตุเฉพาะหน้า ที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายโดยตรง ฉะนั้นนิติบุคคลฯ จะต้องให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกแก่ตำรวจ เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย กรณีนี้ถือว่าเข้าข่ายความผิดข้อหา ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม

จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังยังพบว่า นายมนตรี เคยต้องคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็ก ที่ จ.สระแก้ว เมื่อปี 2556 อีกด้วย

นอกจากนี้ จะต้องตรวจสอบกับบริษัทรักษาปลอดภัยที่รับคนร้ายเข้ามาทำงาน เนื่องจากคนร้ายเคยต้องโทษในคดีข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งตาม พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ระบุว่าห้ามรับบุคคลใด ที่ต้องโทษคดีความผิดทางเพศ เข้าทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย หากบริษัทรักษาปลอดภัย ไม่ตรวจสอบประวัติย้อนหลังกับผู้ที่มาสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ก็จะเข้าข่ายมีความผิดด้วยเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูล : FACBOOK สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

คลิปอีจันแนะนำ
ลูกตาย พ่อแม่ไม่ติดใจ แล้วทำไมถึงไม่จบ?