ศาลจังหวัดภูเก็ต พิพากษาคดีฆ่าอำพรางแหม่มสวิตฯ ทิ้งน้ำตก

ศาลจังหวัดภูเก็ต พิพากษาคดีฆ่าอำพรางแหม่มสวิตฯ ทิ้งน้ำตก ตัดสินโทษบังรีจำคุกตลอดชีวิต ยกฟ้องพยายามข่มขืน

วันนี้(16 มี.ค. 65) นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เผยว่า เมื่อวันอังคารที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดภูเก็ต ได้อ่านคำพิพากษาคดีฆาตกรรมิ นางนิโคล ซาเว่น ไวครอป์ (MRS. NICOLE SAUVAIN WEISSKOPF) สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 57 ปี เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นเจ้าหน้าที่รองหัวหน้าพิธีการทูตสหพันธรัฐสาธารณรัฐเยอรมนี เหตุเกิดเมื่อเดือนสิงหาคม 2564

เปิดคำสารภาพ มือฆ่าอำพราง นทท. แซนด์บ็อกซ์

โดยการอ่านคำพิพากษาคดีนี้ ศาลจังหวัดภูเก็ตได้ใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์จากห้องพิจารณาคดีของศาลจังหวัดภูเก็ต ไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มี นายมาร์ค เอมอล โชเว่น สามีผู้ตาย และบุตรชายอีก 2 คน ได้ร่วมรับฟังผลคำพิพากษาครั้งนี้ไปด้วยกัน พร้อมกับการอ่านคำพิพากษาต่อหน้าจำเลยที่ศาลจังหวัดภูเก็ต ซึ่งครอบครัวผู้เสียชีวิตได้กล่าวขอบคุณศาลจังหวัดภูเก็ต พนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต และเจ้าพนักงานตำรวจที่ช่วยกันสืบสวนจับกุมคนร้ายจนได้ตัวจำเลยมาลงโทษ กับจังหวัดภูเก็ตที่อำนวยความสะดวกในการประสานงานติดต่อทางญาติของผู้ตายด้วย

สำหรับคดีดังกล่าว พนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ได้ยื่นฟ้อง นายธีวัฒน์ หรือบังฟารี หรือบังรี ท่อทิพย์ จำเลย ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า วันที่ 3 ส.ค. 64 เวลากลางวัน ก่อนเกิดเหตุจำเลยขึ้นไปบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน เพื่อไปหาพันธุ์ไม้ป่า ขณะเดินลงมาเห็นนางนิโคล โชเว่น ไวส์คอพฟ์ (Nicole Sauvain Weisskopf) ผู้ตาย รูปร่างบางผิวขาว นั่งเอาเท้าแช่น้ำที่ลำธาร จำเลยเกิดอารม์ทางเพศจึงเดินเข้าไปล็อกคอผู้ตายอย่างแรงและกดศีรษะคว่ำหน้าในลำธาร กระทั่งผู้ตายหมดสติได้ถอดเสื้อผ้าผู้ตายออก โดยเมื่อเห็นหน้าผู้ตายลักษณะเขียวคล้ำจำเลยหมดอารมณ์ทางเพศแล้ว จึงเอาผ้าพลาสติกสีดำที่ใกล้ที่เกิดเหตุมาคลุมตัวผู้ตาย และเอาก้อนหินมาทับไว้ก่อนค้นกระเป๋าเอาเงินของผู้ตาย 300 บาทไป ซึ่งมีการแจ้งข้อหาจำเลยกระทำอนาจาร พยายามข่มขืนกระทำชำเรา ฆ่า เสพเมทแอมเฟตามีนและกัญชาด้วย เห็นว่าการที่จำเลยใช้แขนล็อกคอจากด้านหลังและกดศีรษะผู้ตายลงน้ำจนมิดหมดสติ ย่อมเล็งเห็นผลว่าอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ และเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายจึงถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199, 288, 334 และความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มาตรา 104, 162 จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52(2) ซึ่งเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกตลอดชีวิตจำเลยสถานเดียว และให้ริบของกลาง โดยยกฟ้องข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเรา และกระทำอนาจาร

คลิปอีจันแนะนำ
พระลอย! เสพยา เมาเหล้า ป่วนโรงพัก