เหยื่อสาดน้ำกรด 3 เดือน คดีไม่คืบ ปวีณาฯ ประสาน สภ.หนองปรือ เร่งรัดคดี

เหยื่อสาดน้ำกรด พร้อม ปวีณา ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เดินทางเข้าพบ ผกก.สภ.หนองปรือ หลังแจ้งความ 3 เดือนคดีไม่คืบ ปวีณาฯ ประสาน สภ.หนองปรือ เร่งรัดคดี

เพียงเสี้ยววินาที…เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล

จากกรณี เหยื่อสาดน้ำกรด ร้องปวีณา เมื่อวานนี้ 18 ม.ค. 65 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุล หลังเกิดเหตุ โดนลวงไปสาดน้ำกรด เมื่อวันที่ 22 กันยายน 64 กว่า 3 เดือน คดีไม่คืบหน้า ทางมูลนิธิปวีณายื่นมือเข้าช่วย ล่าสุด ประสานไปยัง พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี

สาวร้อง ปวีณา ถูกคนร้าย สาดน้ำกรด จนเสียโฉม

วันนี้ (19 ม.ค. 65) เวลาประมาณ 13.45 น. ทางมูลนิธิปวีณา นำโดยประธานมูลนิธิ นางปวีณา พร้อมผู้เสียหาย เหยื่อสาดน้ำกรด เข้าพบ พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี เพื่อให้เร่งคดีนี้ และนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษทางกฎหมายให้ไวที่สุด โดยจะให้ไล่สอบปากคำตัวผู้เสียหายใหม่อีกครั้ง

โดยทางมูลนิธิ ยังได้ประสานกับ นางมนัสนันทน์ ศุภพิทักษ์สกุล พมจ.ชลบุรี และนางนัทธมล กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็ก จ.ชลบุรี ให้ร่วมติดตามและช่วยเหลือคดีนี้

ซึ่งวันนี้ นางมนัสนันท์ และนางนัทธมล ก็มาที่สภ.หนองปรือด้วย

ความคืบหน้า ล่าสุด พ.ต.อ.ดำรง เผย ไม่นิ่งนอนใจกับคดีดังกล่าว โดยตอนนนี้ อยู่ในขั้นตอนการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหลักฐานที่ได้ เพียงพอให้คาดตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่า บุคคลดังกล่าวที่คาดไว้เป็นใคร และมีพยานหลักฐานใดบ้าง แต่ขอรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นกว่านี้ ไม่เกิน 1 อาทิตย์ จับตัวผู้ก่อเหตุได้แน่นอน

ในส่วนที่ ผู้เสียหายแจ้งความไป 3 เดือนกว่า แต่ คดีไม่คืบหน้า ทาง พ.ต.อ.ดำรง อธิบายว่า เพิ่งได้รับคำสั่งย้ายมาประจำอยู่ที่ สภ.หนองปรือ เมื่อเดือน ธ.ค. 64 ซึ่งคดีนี้ ผู้เสียหายแจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว (22 ก.ย. 65)

ดังนั้น จึงเป็นการรับช่วงทำคดีต่อ และความผิดพลาดที่ทำให้ ผู้เสียหายคิดว่า ไม่มีความคืบหน้าทางคดี คือ เบอร์โทรศัพท์ที่ญาติผู้เสียหาย ให้ไว้กับตำรวจ ตำรวจเข้าใจว่า เป็นเบอร์ของพ่อบุญธรรม ซึ่งอยู่คนละที่กับผู้เสียหาย จึงไม่ได้ติดต่อกลับไป ทั้งผู้เสียหายเอง เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 65 และไม่ได้เข้ามาติดตามคดี เนื่องจากเธอไม่ได้รับการติดต่อจากตำรวจมากว่า 3 เดือน จึงตัดสินใจ เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาแทน

หลังจากที่ทุกฝ่าย ร่วมหารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางต่อไปยังจุดที่เกิดเหตุดังกล่าว บริเวณ ซ.ห้วยยายมุก ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นทางแยกจากถนนใหญ่ เป็นทางเข้าโรงเรียนวัดโป่ง

ซึ่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุ รอบๆ บริเวณนั้น ไม่มีบ้านคน ไม่มีกล้องวงจรปิด เมื่อเลี้ยวเข้าแยกมา จะมีถนนเส้นเล็ก 2 ข้างทาง เต็มไปด้วยป่าหญ้าสูงปกคลุม

สถานที่แห่งนี้เอง…ที่ผู้ก่อเหตุ เลือกเป็นที่สำหรับพรากชีวิตที่เคยสดใสของเธอ

อีจันมีโอกาสได้คุยกับเธอ ถามเธอถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เมื่อได้ฟังคำตอบ…กลับทำให้จันหดหู่ยิ่งกว่าเดิม

จันถาม หลังจากวันนั้น ชีวิตเราเป็นยังไงบ้าง?

เธอตอบ…

“หนูไปทำงานไม่ได้ หนูไม่กล้าออกไปเจอใครเลย หนูกลัวคนอื่นรังเกียจร่างกายของหนู และกลัวว่า ชาย 2 คนนั้น จะย้อนกลับมาทำร้าย”

ในส่วนของ นางปวีณา ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล กล่าวว่า หลังจากนี้ จะให้ผู้เสียหายอยู่กับทางมูลนิธิไปก่อน จนกว่าจะจับผู้ก่อเหตุได้ และในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค. 65 ) จะเดินทางไปยังโรงพยาบาลจุฬา เนื่องจาก ทีมแพทย์ทางโรงพยาบาล ได้นัดตัดชุดสำหรับป้องกันไม่ให้แผลตามลำตัวนูนขึ้นมา และขยายใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งประเมินบาดแผล เพื่อทำการรักษาบาดแผลบนร่างกายของเธอ

เหตุการณ์นี้ เปลี่ยนเธอคนที่สวย กลายเป็นคนเคยสวย

บาดแผลบนร่างกาย หากได้รับการรักษา แน่นอนว่าเมื่อเวลาผ่านไป ย่อมจางหาย

แต่บาดแผลที่ฝังลึกในใจของเธอ ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ไม่อาจลืม

คดีนี้จะจบลงอย่างไร

ตำรวจจะจับตัวผู้ก่อเหตุภายในเวลา 1 อาทิตย์ได้หรือไม่

และเหตุแห่งการกระทำความผิดนี้ เกิดจากอะไร

รอติดตามไปพร้อมกัน หากมีความคืบหน้า จันจะรีบอัปเดตให้ทุกคนทราบต่อไป

คลิปแนะนำอีจัน
สาดน้ำกรด จนเสียโฉม หวังแก้แค้น?