
ครอบครัวช็อก! เห็นภาพลูกชายถูกกลุ่มฮามาส ระดมยิงดับคารถเก๋ง ก่อนถีบร่างไร้วิญญานทิ้งกลางถนน
เหตุสลด แรงงานไทย ชาว จ.ขอนแก่น เสียชีวิตอีกศพ หลังถูกกลุ่มฮามาส ระดมยิงใส่รถเก๋งจนร่างพรุน ก่อนถีบศพทิ้งลงกลางถนน ณ ประเทศอิสราเอล ด้านคุณพ่อหลังจากรู้เรื่อง มีอาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับเป็นอาทิตย์ เหม่อลอยตลอดเวลา คิดถึงลูกชายที่จากไปด้วยสงครามในครั้งนี้
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ (15 ต.ค. 66) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นาย พิทักษ์ อายุ 54 ปีแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ซึ่งทำงานมากว่า 20 ปี จนรู้ภาษาและมีภรรยาเป็นชาวอิสราเอล ซึ่งญาติพี่น้องเห็นภาพคนที่ถูกยิงตายข้างถนนแล้ว ยืนยันว่า เป็นนายพิทักษ์ แรงงานไทยจริง
โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับพ่อของนายพิทักษ์ และน้องสาว รวมถึงภรรยาชาวไทย อยู่ที่บ้าน ซึ่งคุณพ่อ มีอาการนิ่งและเหม่อลอย หลังทราบข่าวการเสียชีวิต ของลูกชายเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา
และหลังจากที่ครอบครัว ตัดสินใจบอกข่าวร้ายกับพ่อ ว่าพี่ชายเสียชีวิตแล้ว คุณพ่อก็มีอาการร้องไห้ฟูมฟายทันที และยังกินไม่ได้นอนไม่หลับ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เอาแต่คิดถึงลูกชาย เพราะในทุกๆวันนั้น นายพิทักษ์ ลูกชาย จะโทรศัพท์มาคุยเล่นกับพ่อเป็นประจำ กระทั่งวันเกิดเหตุ นายพิทักษ์ ถูกระดมยิงภายในรถเก๋ง ที่ตัวนายพิทักษ์ ใช้ขับมาทำงาน ก่อนที่กลุ่มฮามาสนั้น จะถีบร่างอันไร้วิญญาน ของนายพิทักษ์ ให้นอนไร้ลมหายใจ อยู่กลางถนน ในประเทศอิสราเอล ใกล้กับพื้นที่ฉนวนกาซา
ด้านนางนงลักษณ์ อายุ 52 ปี น้องสาวบอกว่า พ่อแม่มีลูก 7 คน นายพิทักษ์เป็นคนที่ 3 เคยแต่งงานมีภรรยาและบุตร 2 คน แต่หย่าร้างกับภรรยาแล้ว ก็เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ส่วนบุตรทั้ง 2 คน ป้าหรือพี่สาวของอดีตภรรยาเลี้ยง จนโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว ซึ่งนายพิทักษ์ ไปทำงานที่อิสราเอลได้ 20 ปีแล้ว จนมีภรรยาและลูกด้วยกัน 1 คน เป็นหญิงวัย 17 ปี ชื่อจิมมี่ และเมื่อสองปีที่ผ่านมาพี่ชายก็กลับมาเยี่ยมบ้าน แล้วก็กลับไปทำงานต่อ โดยทำหน้าที่ ขับรถในสวนมันฝรั่ง อยู่กับครอบครัวที่อิสราเอล แต่ก็ยังติดต่อกับที่บ้านและภรรยาชาวไทย รวมถึงติดต่อลูกแทบทุกวัน โดยลูกทั้งสองนั้น ตอนนี้ก็ทำงานในกรุงเทพฯ
น้องสาวคนตาย บอกว่า รู้ข่าวจากเพื่อนแรงงานเล่าให้ฟังว่า ได้ยินเสียงปืนหลายนัด และพากันหนีหาที่หลบ แล้วมีเด็กวิ่งไปบอกว่าอากู๋ตายแล้ว เขายิงอากู๋ ซึ่งอากู๋คือฉายาที่เพื่อนๆ แรงงานเรียกพี่ชายแทนชื่อนายพิทักษ์ โดยพี่ชายถูกยิงในรถเก็งก่อนที่จะถีบร่างทิ้งข้างถนน
ทางด้านนางจำปี ภรรยาชาวไทย คนปัจุบันของนายพิทักษ์ บอกว่า ตนได้คุยโทรศัพท์กับสามีครั้งสุดท้ายคือ เช้าวันที่ 7 ต.ค. 66 ช่วงที่เกิดเหตุพอดี สามีติดต่อมาในช่วง 11.23 น. เวลาในไทย ซึ่งตรงกับ 6 โมงเช้า ในอิสราเอล ซึ่งช่วงที่คุยโทรศัพท์กัน ตนได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด ก็เลยถามสามีว่า ทำไมเสียงปืนดังจัง สามีก็ตอบว่า เขาทำบุญกัน จากนั้นก็ตัดสายไป ได้คุยแค่ 4 นาทีเท่านั้น โดยขณะที่คุยก็ขอเปิดกล้อง เพราะว่าได้ยินเสียงดัง นายพิทักษ์เองก็บอกว่า เสียงอะไรไม่รู้ เปิดกล้องไม่ได้ แล้วก็พูดเหมือนหงุดหงิดจะทุบโทรศัพท์ทิ้ง หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อไป และไม่ได้รับการติดต่อมาอีกเลย
ตัวภรรยาของนายพิทักษ์บอกอีกว่า “ติดต่อสามีไม่ได้ใจไม่ดี จึงบอกญาติพี่น้อง ให้แจ้งลูกสาวกับลูกชาย สอบถามข่าวคราวของสามีไปยังพี่น้องที่ประเทศอิสราเอล โดยลูกสาวติดต่อไปหาน้องสาวชื่อจิมมี่ วัย 17 ปี ที่ประเทศอิสราเอล ถามเรื่องพ่อ ให้ตรวจสอบให้ น้องทำการตรวจสอบแล้วแจ้งมาว่า พ่อถูกกลุ่มฮามาสยิงตายแล้ว พร้อมกับส่งรูปมาให้ดู จากนั้นก็บอกญาติพี่น้องที่ทำงานในอิสราเอลตรวจสอบ ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่ตรงกันว่า สามีถูกยิงตายในรถเก๋ง"
อย่างไรก็ตามอีจันขอแสดงความเสียใจ ถึงการสูญเสียของพี่น้องชาวไทย ที่ไปเป็นแรงงานในอิสราเอลด้วยนะครับ