ตร.รวบเพิ่มอีก 3 ราย แก๊งอุ้มฆ่าสาวชุดเหลือง แล้วฝังกลางเหว จ.นครศรีธรรมราช

ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับเพิ่มอีก 3 ราย แก๊งอุ้มฆ่าสาวชุดเหลือง หายตัวหายตัวปริศนาพร้อมรถยนต์ ก่อนพบร่างถูกยิงแล้วฝังกลางเหว เมืองนครศรีธรรมราช

รวบได้เพิ่มอีก 3 ราย แก๊งอุ้มฆ่าสาวชุดเหลือง หายตัวหายตัวปริศนาพร้อมรถยนต์ ก่อนพบร่างถูกยิงแล้วฝังกลางเหว เมืองนครศรีธรรมราช 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 และชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ 

1.นายธนวิชญ์ หรือเพชร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 81/2566 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย” จับกุมได้บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา  

2.นายไพฑูรย์ หรือโอ๊ต ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 136/2566 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2566 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันรับของโจร” จับกุมได้ที่ริมถนนสายบ้านเก่า – ห้วยน้ำขาว ม.2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี  

3.น.ส.อำพิลา หรือแต้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 137/2566 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2566 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันรับของโจร” จับกุมได้ที่ริมถนนสุขภิบาลหวายเหนียวสาย 2 ม.1 ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี  

หลังจากเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา น.ส.สุพัตร ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อแจ้งความว่า น.ส.สุดารัตน์ หรือเอ๋ ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ ได้หายตัวไปจากบ้าน ที่ ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมรถยนต์สีขาว เกรงว่าน.ส.สุดารัตน์ อาจจะเกิดอันตรายแก่ชีวิตจึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน  

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ทำการสืบสวน โดยตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบประตูห้องนอนของ น.ส.สุดารัตน์ ถูกทุบทำลายได้รับความเสียหาย จึงเชื่อว่าการหายตัวไปของ น.ส.สุดารัตน์ น่าจะเกิดจากการถูกประทุษร้ายต่อชีวิต   

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 รถยนต์สีขาวคันดังกล่าวได้ขับผ่าน ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้า อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ชายแดนด้านทิศตะวันตก กระทั่งวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ติดตามตรวจยึดรถยนต์ดังกล่าวไว้ได้ จากการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง พบว่าการหายตัวไปของ น.ส.สุดารัตน์ ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นั้น ได้มีการร่วมกันกระทำความผิดโดยเตรียมการ วางแผน แบ่งหน้าที่กันมาก่อนแล้ว เพื่อให้ได้ไปซึ่งรถยนต์สีขาวคันดังกล่าว ตลอดจนได้ฆ่าน.ส.สุดารัตน์ แล้วอำพรางศพด้วยการฝังกลบดิน 

วันที่ 13 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม เมื่อเดินเท้าขึ้นไปได้ประมาณ 300–400 เมตร ลักษณะเป็นเนินสันเขา ข้ามลำห้วยไปประมาณ 10 เมตร พบร่อยรอยการขุดดินมีเศษใบไม้และก้อนหินวางปิดทับอยู่ จึงได้ใช้จอบขุดดินออก พบศพ น.ส.สุดารัตน์ ใส่ชุดคลุมสีเหลืองนอนตะแคงชันเข่า โดยมีผ้าห่มสีเขียวคลุมห่อไว้ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน กระสุนฝังในศีรษะจำนวน 1 นัด   

จากการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง มีบุคคลที่เกี่ยวข้องร่วมกันในการกระทำความผิดและถูกศาลจังหวัดทุ่งสงออกหมายจับจำนวน 9 ราย โดย 1 ในคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุตั้งแต่ต้น คือ นายธนวิชญ์ ซึ่งเป็นคนที่บุกเข้าเอาตัว น.ส.สุดารัตน์ มาจากในบ้าน พร้อมนำรถยนต์สีขาวมาส่งมอบให้กับพวก ขับมุ่งไปจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากสับเปลี่ยนรถยนต์ที่ขับขี่มาแล้ว นายธนวิชญ์ ก็ได้เปลี่ยนไปขับขี่รถยนต์เก๋งสีขาวพาน.ส.สุดารัตน์ เดินทางไปที่หลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปพบกับนายอนุสรณ์ แล้วร่วมกันใช้อาวุธปืนยิง น.ส.สุดารัตน์ ถึงแก่ความตาย และช่วยกันขุดหลุมฝังศพเอาไว้บนเนินเขาหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อมดังกล่าว หลังเกิดเหตุต่างก็ได้แยกย้ายกันหลบหนีออกนอกพื้นที่   

ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย แบ่งกลุ่มได้ ดังนี้  

กลุ่มผู้ลักพาตัว (อุ้มฆ่า)  

1.นายธนวิชญ์ หรือเพชร  

2.นายอนุสรณ์ หรือสร (หลบหนี) 

3.นายบุญยืน หรือกบ 

4. นายสุขพินันท์ หรือสุข  

กลุ่มผู้นำรถไปขายประเทศเพื่อนบ้าน  

5.นายชัยญา หรือบี (หลบหนี) 

6.นายสมพงษ์ (หลบหนี) 

7.นายไพฑูรย์ หรือโอ้ต 

8. น.ส.อำพิลา หรือแต้ว   

กลุ่มซ่อนเร้นอำพรางศพ 

9. นายเอกลักษณ์  

โดยนายบุญยืน, นายสุขพินันท์ และนายเอกลักษณ์ ได้ถูกเจ้าหน้าตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมไปก่อนหน้านี้ และนายบุญยืน, นายสุขพินันท์ ถูกศาลพิพากษาลงโทษข้อหา “ปล้นทรัพย์” จำคุกคนละ 9 ปี ส่วนนายเอกลักษณ์ฯ ถูกศาลพิพากษาลงโทษข้อหา “ซ่อนเร้นอำพรางศพ” จำคุก 1 ปีเศษ   

ต่อมา 9 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. สืบสวนทราบว่านายธนวิชญ์ หลบหนีไปกบดานอยู่ใน พังงา ส่วนนายไพฑูรย์ และน.ส.อำพิลา ได้หลบหนีไปอยู่พื้นที่ จ.กาญจนบุรี จึงได้ประสานการปฏิบัติกับชุดหนุมานกองปราบ เพื่อวางแผนเข้าทำการจับกุมเอาไว้ได้ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา   

ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้า ‘อีจัน’ จะอัปเดตให้ทราบอีกครั้ง 


คลิปอีจันแนะนำ

7 ชั่วโมง ระทึก! แทงก์น้ำมันระเบิด จ.ระยอง