รวบแล้ว “แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ” ลักลอบขายปืนไทยประดิษฐ์ ผ่านออนไลน์

อย่าหาทำ! สืบนครบาล รวบ “แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ” นศ. ลักลอบขายปืนไทยประดิษฐ์ ผ่านออนไลน์ หาเงินใช้จ่ายชีวิตประจำวัน

อย่าหาทำ! งานที่ผิดกฎหมายถึงเงินจะดี แต่ถูกจบมายังไงก็ไม่คุ้ม ล่าสุด สืบนครบาล รวบ “แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ” นศ.คณะนิติศาสตร์ ที่เบื่ออาชีพเชฟ ผันตัวมาลักลอบขายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ผ่านกลุ่มปิดทางโซเชียล หาเงินใช้จ่ายชีวิตประจำวัน สารภาพว่าเงินดีจึงยึดเป็นอาชีพ สุดท้ายก็ไม่รอด 

สืบเนื่องจาก นโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยปัจจุบันมีการใช้นำอาวุธปืนไปก่อเหตุในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายมีเพิ่ม อาทิ เหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้า, ช่างกลต่างสถาบันนำอาวุธปืนไปใช้ยิงคู่อริ เป็นต้น 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงให้สืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายที่ลับลอบจำหน่ายอาวุธปืนต่างๆ ทางออนไลน์จนพบว่า “แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ” มีพฤติกรรมลักลอบนำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาดต่างๆ ส่งจำหน่ายทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอีก 1 ตัวการสำคัญซึ่งเป็นต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นในสังคมอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายที่ต้องรีบสืบสวนจับกุมให้ได้โดยเร็ว 

วานนี้ (20 ก.พ. 67) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.นำทีมจับกุม นายธงชัย หรือ แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ อายุ 28 ปี ที่หมู่ 17 ตำบลบ้านไร่ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ในข้อกล่าวหาวกระทำความผิดฐาน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายซึ่งอาวุธปีนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต 

ซึ่งเจ้าหน้าที่พบตัว แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ ขณะขับรถกระบะส่วนตัวนำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ไปจัดส่งให้แก่ลูกค้า สามารถตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 รวม จำนวน 10 กระบอก ในสภาพบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุพร้อมจัดส่งให้แก่ผู้รับเป็นที่เรียบร้อย  

จากการซักถาม แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนอยู่ระหว่างเรียนคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง เดิมทีเป็นช่างซ่อมจักรยานยนต์ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี จึงหันมาเป็นเชฟทำอาหารอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครสวรรค์ ทำอยู่ 1 ปี รู้สึกเบื่อกับงานที่ทำ และช่วงประมาณต้นปี 64 เพื่อนที่รู้จักได้ชักชวนให้ไปเอาอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ในพื้นที่อำเภอพยุหะคีรี ในราคา 4,000 บาท เพื่อนำมาขายต่อในราคา 6,000 บาท เห็นว่าได้กำไรดี จึงยึดเป็นอาชีพหลักตลอดมา  

จนเมื่อช่วงประมาณเดือนตุลาคม 64 ถูกจับกุม ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” (ครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน) ครั้งนั้นศาลตัดสินลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท (โทษจำคุกรอลงอาญาสองปี) ช่วงนั้นก็เลยหยุดการไปรับปืนมาขายไป 

จนช่วงเดือนพฤศจิกายน 66 ตนได้กลับมาทำอีก จนมาถูกจับกุมในที่สุด ซึ่งเงินที่ได้จากการจำหน่ายอาวุธปืนนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เลี้ยงไก่ หาความสุขใส่ตัวไปวันๆ  

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดี นำส่ง พงส.สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


คลิปอีจันแนะนำ

ทอย ฆ่าเผาอำพราง น้องนุ่น ยอมรับขาดสติ เครียดสะสม ขอโทษครอบครัว กับสิ่งที่เกิดขึ้น