พบศพปริศนา สายไฟรัดคอ ยัดผ้าห่ม ทิ้งป่าละเมาะ : ชุมพร

พบศพในป่าละเมาะ จ.ชุมพร
เสื้อคลุมหัว มัดด้วยสายไฟ
เกิดอะไรขึ้นกับศพรายนี้ ?

เรื่องราวนี้เกิดขึ้น เวลา 18.30 น. เมื่อวันที่ 7 ม.ค.67
ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพถูกห่อแล้วนำมาทิ้งไว้ในป่าละเมาะริมถนนชลประทาน คลองหัววัง-พนังตัก แก้มลิงหนองใหญ่ ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จึงลงตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์

เจ้าหน้าที่พบศพเป็นชายรายหนึ่ง ถูกห่อด้วยเสื่อแล้วใช้เชือกไนล่อนมัดหัวมัดท้าย มีขา 2 ข้างโผล่ออกมาให้เห็นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยแก้มัดเชือกออก พบว่า ศพยังถูกห่อทับด้วยผ้านวมอีก 1 ชั้น และที่ศีรษะมีเสื้อแขนยาวคอปกสีกรมท่าเข้มด้านหลังเสื้อมีอักษรปักด้วยด้ายสีเหลืองข้อความว่า “วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี”

ลักษณะ คือ มีเสื้อคลุมไว้ที่หัวผู้ตาย และที่ลำคอถูกมัดด้วยสายไฟสีขาวยาวประมาณ 2 เมตร โดยสายไฟยังมีปลั๊ก 3 ตา ติดอยู่ด้วย สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงกีฬาผ้าร่มขาสั้นสีเหลือง

จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น คาดว่าผู้ตายน่าจะอายุประมาณ 30-40 ปี มีบาดแผลถูกทำร้ายด้วยของมีคมทั่วทั้งใบหน้าจำนวน 4 แผล ตามตัวไม่มีร่องรอยบาดแผล และตำหนิที่เป็นรอยสักใด ๆ อีกทั้งศพเริ่มเน่าจึงสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้ว 3-4 วัน

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุพร้อมกับส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์อย่างละเอียดและพิสูจน์อัตลักษณ์ศพเพื่อตามหาญาติ รวมถึงใช้ประกอบเป็นหลักฐานในสอบสวนหาสาเหตุการสังหารโหดครั้งนี้ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน น.ส.นงนุช อายุ 46 ปี คนแรกที่พบศพ เล่าว่า ตนเป็นจิตอาสาจะเดินทางมากับสามีเพื่อเก็บขยะบริเวณแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้อยู่เป็นประจำ
ตอนเกิดเหตุช่วงใกล้ค่ำได้มีคนเลี้ยงควายเดินมาบอกกับตนว่า เห็นวัตถุถูกห่อด้วยเสื่อทิ้งไว้ในป่าละเมาะ มีแมลงวันไต่ตอมและส่งกลิ่นเหม็น จากนั้นตนจึงเดินไปดูก็พบเห็นว่า น่าจะมีความผิดปกติจึงได้โทรศัพท์แจ้งไปที่ 191 จนกระทั่งตำรวจมาตรวจสอบพบเป็นศพดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ตำรวจเผยว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างเก็บรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด เพื่อให้ทราบก่อนว่า ผู้ตายเป็นใคร ถูกฆ่ามาจากที่อื่น หรือ ถูกฆ่าในพื้นที่แล้วนำมาทิ้งไว้จุดพบศพ ก่อนจะสืบหาญาติสอบสวนหาสาเหตุสาวไปหาตัวคนร้ายต่อไป