ศาลตัดสินประหารชีวิต อดีต ตร.โหด ยิงเจ้าของโรงงานดับบนทางด่วน

ศาลฮาญามีคำสั่งตัดสินประหารชีวิต อดีตตำรวจโหด ยิงนักธุรกิจเจ้าของโรงงานดับสลดคาทางด่วน ปมขัดแย้งเรื่องหนี้สิน เจ้าตัวรับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

จากเหตุการณ์ตำรวจโหด บุกยิงนักธุรกิจเจ้าของโรงงานดับ บนทางด่วนฉลองรัช เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 66 ก่อนในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุม ร.ต.ท. ณรงค์วัส ทะชาดา รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ โดยมูลเหตุจูงใจนั้นผู้ก่อเหตุอ้างว่าขัดแย้งกันเรื่องหนี้สิน 

ล่าสุดวันนี้ เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้รายงานว่า ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีฆ่าผู้อื่นหมายเลขดำ อ.949/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายหรืออดีต ร.ต.ท.ณรงค์วัส หรือนัท อายุ 26 ปี ชาวจ.นครปฐม อดีตรองสว.สอบสวน สน.หัวหมาก เป็นจำเลยในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน  , พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ คดีนี้มีญาติผู้ตายซึ่งเป็นผู้เสียหาย ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีรวม 3 คน 

อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลย สรุปว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 66 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธปืน ออโตเมติก ยิ่ห้อกล็อค(GLOCK)  ขนาด 9 มม. หมายเลขประจำปืน BPCM 975 ทะเบียน 03/6400069 ยิงนายกฤษฎิ์ นักธุรกิจเจ้าของโรงงาน 7 นัดที่บริเวณศรีษะ และอวัยวะส่วนอื่น จนถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา เลขที่ จ.4841/2566 ติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่งย่านสีกัน เขตดอนเมือง  กรุงเทพฯส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางดำเนินคดี เหตุเกิดบริเวณทางด่วนฉลองรัช(ลาดพร้าว ขาออก) แขวง-เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 

โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา33,91,288,289,371,376 ฯ 

ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาในชั้นพิจารณาของศาล จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า มีความขัดแย้งกับผู้ตายเรื่องหนี้สิน จากการทำธุรกิจร่วมกัน 

จำเลยถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ศาลจึงให้สืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพ พิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานโจทก์ ประกอบคำรับสารภาพจำเลยแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4),371, 376 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง 

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม เป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฐานยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ประหารชีวิต ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 2 ปี  

จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 (2) ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คงจำคุกตลอดชีวิต ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง ฯ คงจำคุก 1 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) และให้จำเลยชำระเงินแก่โจทกก์ร่วมที่ 1  จำนวน 2,750,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 2จำนวน 4,600,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 3 จำนวน 6,040,000 บาท รวมจำนวนทั้งสิ้น13,390,000บาท ริบอาวุธปืนพร้อมซองกระสุนปืนของกลาง