จากเหตุการณ์ที่ พลอาสาสมัคร ภูเบศร์ กลิ่นพราม อายุ 37 ปี สังกัด มทบ.14 ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงนายประเปริฐ สิงห์เรือง อายุ 60 ปี ผู้เป็นพ่อตาเสียชีวิตคาบ้านพักภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนพยายามขับรถหลบหนี โดยตำรวจต้องพาพี่สาวของผู้ก่อเหตุเข้าเจรจานานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะยอมมอบตัว
ภาพจากอีจัน
ความคืบหน้าล่าสุด 20 เมษายน 2563 พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปัญญวัฒน์ คำศรี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้ทำการคุมตัวพลอาสาสมัคร ภูเบศร์ ออกมาจากห้องควบคุมและนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีพี่สาวของผู้ก่อเหตุ เเละที่ปรึกษาด้านกฎหมายเดินทางมาร่วมรับฟังการสอบสวน
ภาพจากอีจัน
ซึ่งพี่สาวของ พลอาสาสมัคร ภูเบศร์ เปิดเผยทั้งน้ำตา ว่า ตนเองสนิทกับน้องชายมาก เมื่อวานหลังทราบข่าวก็รีบเดินทางมาช่วยเกลี้ยกล่อมเพราะมั่นใจว่าน้องชายจะรอตนเองและเมื่อเดินทางมาถึงก็พูดผ่านเครื่องขยายเสียงของรถตำรวจบอกกับน้องชายว่าพี่มาแล้วนะยอมมอบตัว จนน้องชายยอมวางปืนและออกมามอบตัว ส่วนปัญหาน้องชายเชิงลึกนั้นไม่ทราบ ทราบเพียงว่ามีปัญหาครอบครัวกับทางภรรยา แต่ไม่คิดว่าน้องจะมาก่อเหตุรุนแรงเช่นนี้ ตอนนี้ห่วงสภาพจิตใจพ่อและแม่ที่ทราบข่าวนี้ว่าน้องชายก่อเหตุ การที่เดินทางมาในครั้งนี้ไม่ได้เตรียมตัวมาขอประกันตัวแต่อย่างใดเพราะทราบและเข้าใจเรื่องนี้ดีคงปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายก่อน
ขณะที่ พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ ผกก.สภ.เมือง สมุทรปราการ เผยว่า เบื้องต้นได้แจ้ง 4 ข้อกล่าวต่อผู้เหตุ ประกอบด้วย
ภาพจากอีจัน
1.พยายามฆ่า 2.ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา 3.ทำให้เสียทรัพย์ 4.พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนจะคุมตัวผู้ต้องหา ไปส่งยังต้นสังกัดคือ มทบ.14 จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของศาลทหาร ส่วนจะเป็นที่ศาลทหารกรุงเทพมหานคร หรือไม่นั้น อยู่ที่ทางต้นสังกัดจะพิจารณากันเอง เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
ภาพจากอีจัน