วานนี้ (22 เม.ย.2563) กองบังคับการปราบปราม โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.นำทีมร่วมกันจับกุมตัว น.ส.สวิตตา (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.84/2563 ลงวันที่ 8 เมษายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และฉ้อโกงผู้อื่น” สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านย่าน รังสิต-คลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ภาพจากอีจัน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน สิงหาคม 2562 ผู้ต้องหาได้โพสต์ข้อความและภาพลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะ หลอกลวงผู้เสียหายและประชาชนทั่วไป ให้เข้าใจว่าผู้ต้องหาเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยผู้ต้องหาอ้างว่ามีความรู้และรู้ช่องทางเรื่องการซื้อขายหุ้นเป็นอย่างดีและผู้ต้องหาได้ชักชวนผู้เสียหายนำเงินมาร่วมลงทุนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทดังกล่าว
ภาพจากอีจัน
ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าขณะโพสต์ข้อความผู้ต้องหายังคงเป็นพนักงาบริษัทเอกชนดังกล่าวจริง จึงได้มอบเงินให้กับผู้ต้องหา โดยวิธีโอนเงินทางโทรศัพท์มือถือและมอบเงินสดให้หลายครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 5 แสนกว่าบาท หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้โอนเงินให้กับผู้เสียหายบางส่วนโดยอ้างว่าเป็นเงินปันผล ต่อมาประมาณเดือน พฤศจิกายน 2562 ผู้ต้องหาอ้างว่า จะมีการเทขายหุ้นแล้วจะเริ่มทยอยคืนเงินต้นให้ ปรากฏว่าไม่มีการคืนเงินต้นและผู้ต้องหาได้หลบหนีไป ติดต่อไม่ได้ ผู้เสียหายจึงโทรศัพท์ไปสอบถามที่บริษัทเอกชนดังกล่าว จึงทราบว่าผู้ต้องหาได้ลาออก พ้นสภาพพนักงาน ก่อนที่จะมีการโพสต์เฟซบุ๊กแล้ว ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี
จนกระทั่ง ตำรวจ กก.1 บก.ป. ชุดจับกุมสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีมาทำงานที่ จ.นนทบุรี และพักอาศัยอยู่บ้านที่ จ.ปทุมธานี จึงได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ และพบตัว น.ส.สวิตตา ผู้ต้องหากำลังเดินออกมาบริเวณหน้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี สอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การ ภาคเสธ ทั้งนี้จะนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป