กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.ท.วชิรเชษฐ์ อัครธีระพงศ์ รอง สว.กก.5 บก.ป. , ด.ต.พงษ์ธร สุขเกษม , ส.ต.ท.ภาคภูมิ อินทร์พรหม และ ส.ต.ท.ณัฐดนัย ภาลา ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายฤทธิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน พราก , พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจารและลักทรัพย์ ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.369/2563 ลงวันที่ 30 เมษายน 2563
สถานที่จับกุม บริเวณกลางซอยหมู่บ้าน ในตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณกลางปี 2559 นายฤทธิชัย (ผู้ต้องหา) ได้รู้จักกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 17 ปี เนื่องจากพักอาศัยอยู่ใกล้กัน ซึ่งนายฤทธิชัย รู้สึกชอบพอ น.ส.เอ และได้พยายามพูดคุยตีสนิทกับ น.ส.เอ จน น.ส.เอ รู้สึกเชื่อใจ จากนั้น นายฤทธิชัย ได้ใช้อุบายพูดจาหลอกล่อ น.ส.เอ ว่าตนเองรัก น.ส.เอ จริง ต้องการที่แต่งงานกับ น.ส.เอ จน น.ส.เอ หลงเชื่อ และมีเพศสัมพันธ์ลึกซึ้ง
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2559 นายฤทธิชัย ได้ใช้อุบายพูดจาหลอกล่อพา น.ส.เอ ย้ายไปอยู่กินด้วยกันที่ ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งขณะอยู่กินด้วยกัน นายฤทธิชัย ได้ตบตี ทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ บ่อยครั้ง จน น.ส.เอ ทนไม่ไหว หลบหนีกลับมาหามารดา ต่อมา นายฤทธิชัย ได้กลับมาหา น.ส.เอ ที่บ้านพัก โดยต้องการที่จะพา น.ส.เอ กลับไปอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์อีก แต่ น.ส.เอ ไม่ยินยอม จึงเป็นเหตุให้ทะเลาะวิวาทกับนายฤทธิชัย และนายฤทธิชัย ได้ทุบกระปุกออมสินของ น.ส.เอ แล้วลักเอาเงินสด จำนวน 5,000 ไป หลังจากนั้น มารดาและ น.ส.เอ จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับผู้ต้องหา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งพบผู้ต้องหายืนอยู่บริเวณกลางซอยหมู่บ้าน ใน ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงได้ทำการจับกุม จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ ในข้อกล่าวหา “พราก, พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร” แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์” เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพจากอีจัน