แตกตื่นกันทั้งโรงงานกลางดึก หนีตายกันจ้าละหวั่น!
วานนี้ 5 ต.ค. 2563 เวลาประมาณ 21.00 น. ตำรวจ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง รับแจ้ง มีชายคลุ้มคลั่งอาละวาด ขับรถถือปืนลูกโม่ ขนาด .38 ก่อเหตุยิงขึ้นฟ้า ที่บริเวณ ถนนไอ 8 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง จึงรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ป้ายทะเบียนระยอง สภาพด้านหน้าพังยับกันชนหน้าหลุดออกถุงลมนิรภัยที่พวงมาลัยรถแตก จอดนิ่งอยู่ที่แท่งแบริเออร์กันขอบถนน หน้าโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำ ถนนไอ 8 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด พบนายราตรี เป็นสุข อายุ 50 ปี นอนอยู่ในรถมีอาการบาดเจ็บที่ขาซ้ายและแผ่นหลัง ส่งเสียงดังโวยวาย กับ รปภ.ที่จะเข้าไปช่วยเหลือก่อนตำรวจ และกู้ภัยจะเข้ามาช่วยเหลือ
ภาพจากอีจัน
ด้าน รปภ.ที่อยู่ในเหตุการณ์แจ้งว่า นายราตรี คนขับมีอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด. 38 มม. ไม่ยอมให้ใครเข้าไปช่วยเหลือ และก่อนหน้านี้ได้ยิงขึ้นฟ้าไปจำนวน 3 นัด ตำรวจจึงต้องกันพื้นที่และใช้เวลาเกลี่ยกล่อมร่วมกับเพื่อนสนิทและภรรยา กับ ลูกสาวอีก 2 คน ที่ตามมาในที่เกิดเหตุ ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ต่อมาเพื่อนสนิทและตำรวจ ได้ขอเข้าไปพูดคุยกับนายราตรี จึงเข้าไปช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ์สมเด็จพระเทพฯสยามบรมราชกุมารี
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
สอบถามนายสุทิน สร้อยสด อายุ 29 ปี รปภ.บริษัท ไทยชินกงอินดัสตรี้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าว่า นายราตรี ได้ขับรถคันดังกล่าว จะเข้ามาที่ภายในบริษัทฯ แต่ตนได้ห้ามเข้าเพราะเป็นยามวิกาล นายราตรี จึงได้ลงมาจากรถ เดินเข้ามาพูดคุยกับตนด้วยอาการเมาสุรา พร้อมกับต่อว่า ว่าตนและเพื่อน รปภ.พูดจาไม่ดีก่อนที่จะเดินกลับขึ้นไปในรถ แล้วใช้อาวุธปืนห้อยออกมานอกตัวรถ แล้วยิงปืนขึ้นฟ้าไปจำนวน 3 นัด ขณะนั้นด้วยความตกใจ ตนจึงกระโดดหลบแล้วตัวนายราตรีก็ขับรถออกไปพุ่งกำแพงแบริเอ่อร์จนรถพังและได้รับบาดเจ็บ ขณะนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือจึงต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุ
ภาพจากอีจัน
ด้านเพื่อนสนิท (ขอสงวนนาม) ของนายราตรี ได้เล่าว่านายราตรี ทำธุรกิจค้าหินค้าทรายอยู่ในพื้นที่มาบตาพุด ก่อนเกิดเหตุนายราตรีได้นั่งดื่มเหล้าอยู่ที่บ้านใน ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ก่อนที่จะขับรถมาในที่ก่อเหตุ ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุสันนิษฐานว่ามาจากความเครียดในทางธุรกิจ เบื้องต้น พ.ต.ท.มานิตย์ บุญมาเลิศ รอง ผกก.ป.สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ได้กล่าวว่า ต้องรออาการนายราตรี ฯ ผู้ก่อเหตุที่ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อนจะนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ปัญหาส่วนตัวแต่กลับกลายเป็นความเดือดร้อนให้คนอื่น ทางออกของปัญหามีมากมาย อย่าเลือกทำแบบนี้เลย