บิ๊กโจ๊ก” จ่อออกหมายจับคนสนิท “แอมไซยาไนด์”

“บิ๊กโจ๊ก” สอบเข้มคนใกล้ชิดแอมไซยาไนซ์ หากเป็นข้าราชการจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน เผยแอม ล้มเหลวทางการเงิน หนี้ท่วมหัว ติดการพนัน จะก่อเหตุเมื่อถูกทวงหนี้

ความคืบหน้าล่าสุด หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เข้าประชุมคดีแอมไซยาไนด์ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

“บิ๊กโจ๊ก” เผยเตรียมออกหมายจับ คนช่วยเหลือแอม 1-2 วันนี้

ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ไล่ข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ โดยเฉพาะข้อมูลทางพยานหลักฐาน และผลทางนิติวิทยาศาสตร์จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ก่อนจะสามารถออกหมายจับบุคคลใกล้ชิดที่เชื่อว่าร่วมกันกระทำความผิดกับแอมได้ในวันพรุ่งนี้ แต่ยังไม่ขอเอ่ยรายชื่อถึงว่าเป็นใคร เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดในข้อหายักยอกทรัพย์ , การใช้เอกสารราชการปลอมเรื่องการสวมทะเบียนรถ

ส่วนข้อหาร่วมกันฆ่า ซึ่งเป็นข้อหาหลัก อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ซึ่งหากพบว่าผู้กระทำความผิดร่วมกันกับแอมเป็นข้าราชการ ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ใช้นโยบาย “ออกจากราชการไว้ก่อน”

ส่วนคดีของ น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ “ทราย” รายล่าสุดที่เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ ที่เสียชีวิตในพื้นที่ สน.ทองหล่อ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนหาความเชื่อมโยงให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากผู้เป็นแม่ให้การว่าวันเกิดเหตุแอมเป็นคนมารับลูกสาวในช่วงเย็น แต่ผู้ตายมาถึงคอนโดในช่วงเวลาราวตี 1 ประเด็นนี้ยังมีช่วงเวลาที่หายไปอยู่ ตำรวจจึงต้องสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อขยายความโยงให้ถึงแอมให้ได้ ประกอบกับคดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 58 แล้ว แต่ตำรวจเชื่อมั่นว่าคดีนี้เกิดจากการกระทำลักษณะเดียวกันกับเหยื่อรายอื่นๆ

แม่มั่นใจ แอมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสาว

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบรถของผู้ต้องหา แล้วพบ เอกสารสัญญาปล่อยเงินกู้ ขณะนี้อยู่ระหว่างไล่ความเชื่อมโยง ทั้งการขับรถของบุคคลใกล้ชิดแอมที่ขับรถลงมาจาก จ.อุดรธานี หลังนายแด้เสียชีวิต ซึ่งเป็นรถของนายแด้ ยี่ห้อ “เชฟโรเลต” และเมื่อมาถึง จ.นครปฐม ได้เอารถคันดังกล่าวไปจำนำทันที โดยอดีตสามีของแอมได้ให้การว่า เป็นคนไปเอารถมาจริง แต่ภรรยาให้ไปเอารถคันดังกล่าวมา เพราะเป็นเป็นรถที่จำนำมา

ซึ่งจากการสืบสวนและดูไทม์ไลน์ช่วงเกิดเหตุแต่ละครั้ง ปรากฏชัดว่า มักจะเกิดเหตุช่วง วันศุกร์ , เสาร์ และอาทิตย์ และทุกครั้งที่ก่อเหตุเสร็จแล้วแอมมักจะกลับมาหาบุคคลใกล้ชิดทุกครั้ง และจะออกไปต่างจังหวัดด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นวิธีการสร้างพยานหลักฐาน และสร้างถิ่นที่อยู่ จึงเชื่อว่าการกระทำของแอมลักษณะดังกล่าว ถ้าไม่มีคนแนะนำ ไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน ทั้งเรื่องการเลือกเวลาก่อเหตุ และการสร้างพยานหลักฐานต่างๆ เพราะไม่รู้ว่าจะก่อเหตุตอนไหน และสร้างพยานหลักฐานได้อย่างไร

โดยขณะนี้อดีตสามีของแอม อยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม อยู่ภายในห้องพนักงานสอบสวนที่สโมสรตำรวจ เบื้องต้นเจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์มากขึ้น และถือว่าดีกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่ยอมรับว่าร่วมก่อเหตุหรือไม่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยังกล่าวอีกว่า การก่อเหตุของแอม ส่วนใหญ่แรงจูงใจมาจากเรื่อง “ประสงค์ต่อทรัพย์” เนื่องจากพบว่าแอมมีสถานะทางการเงิน “ล้มเหลว” มีหนี้สินเยอะ ทั้งบัตรเครดิตรวมถึงเป็นหนี้ในกลุ่มคนต่างๆ และติดพนันออนไลน์จำนวนมาก

โดยเมื่อเหยื่อทวงหนี้ ก็จะเป็นแรงกระตุ้นในการก่อเหตุทุกครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้จากบัตรเครดิต ซึ่งจากการสืบสวนยังไม่แน่ชัดว่าแอมเอาเงินไปทำอะไร แต่หลังจากได้เงินจากเหยื่อแล้ว ก็ไม่เคยเอาเงินไปคืนหรือใช้หนี้ แต่พบว่ามีการเงินโอนไปยังบัญชีต่างๆ รวมถึงบัญชีม้าและบัญชีบุคคลใกล้ชิดที่เตรียมจะออกหมายจับด้วย

ส่วนยอดทั้งหมดเท่าไหร่นั้น ยังไม่แน่ชัด ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าตัวติดเครดิตบูโร และมีหมายจากธนาคารมาที่บ้าน แต่อดีตสามีอ้างว่าไม่รู้ แต่จากข้อมูลขณะนี้ตำรวจได้ข้อมูล 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว

อย่างไรก็ตามอดีตสามีของแอม แม้จะหย่ากันแล้ว แต่ยังอยู่กินด้วยกัน โดยให้เหตุผลว่า “เป็นเรื่อง เศรษฐกิจ” เบื้องต้นยังไม่ได้เช็คเรื่องหนี้สินของอดีตสามี

ทั้งนี้ ได้สั่งให้ชุดสืบสวนร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ อย. ร่วมกันตรวจสอบโรงงานที่นำเข้า “ไซยาไนด์” ว่าเอาเข้ามาได้อย่างไร และได้ส่งให้ใครบ้าง ซึ่งคาดว่าพรุ่งนี้จะมีความชัดเจน ส่วนล่าสุดผลตรวจหลักฐานเหยื่อออกมาแล้ว พบ “ไซยาไนด์” ในรถของแอม กล่องพัสดุที่บ้านพี่สาว และขวดน้ำในตู้เย็นที่บ้านครูอ๊อด

คลิปอีจันแนะนำ
อีจัน The Series ปริศนาคดี เเอมไซยาไนด์