จากกรณี ด.ต.อรรถพร วิเชียร ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปรามยาเสพติด สภ.คีรีรัฐนิคม ใช้อาวุธสงครามแบบ M16 บุกเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี แล้วเกิดการดวลปืนกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ ทราบชื่อรายแรกคือ นายธรรมรงค์ อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน รายที่สอง นางนิลทิพย์ อายุ 48 ปี ภรรยาของ นายธรรมรงค์ รายที่สามคือ นายพรศักดิ์ อายุ 58 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน และรายที่สี่คือธรรมรัตน์ หรือวัฒน์ หนึ่งในกลุ่มของคนร้าย
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 เม.ย.66 ร.ต.อ.อำไพ มีมัสสุ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คีรีรัฐนิคม รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวเสียชีวิตภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่าขนอน อ.คีรรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.วิโรจน์ ยิ่งดำนุ่น รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.คีรีรัฐนิคม เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และเจ้าหน้าที่กู้ภัย
โดยที่หน้าห้องพักหมายเลข 1 จุดเกิดเหตุ มีรถเก๋งสีดำ ทะเบียน กทม. จอดอยู่ 1 คัน ตรวจสอบภายในห้องพบศพ น.ส.พนิดา ซึ่งเป็นภรรยาของ ด.ต.อรรถพร นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน จากการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณใต้ตาซ้าย ทะลุขมับขวา จำนวน 1 นัด ศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 2 วัน และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม น.ส.เตย ผู้ดูแลห้องพักทราบว่า ด.ต.อรรถพร ได้มาเปิดห้องพัก ห้องเบอร์ 1 ไว้สามคืน ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา และวันที่ 8 เม.ย. มาเปิดห้องเบอร์ 7 เพิ่ม อีกหนึ่งห้อง จนมาเห็นในข่าวก็รู้ว่า เป็นด.ต.อรรถพร ที่ตนเองรู้จัก เป็นผู้ก่อเหตุ จนมีเจ้าหน้าที่แกะรอยจนมาเจอรถ และไม่ทราบว่าในห้องมีผู้หญิงอยู่ด้วย จึงได้เปิดห้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบ ก็พบกลายเป็นศพดังกล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 9 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตภายในรถเก๋ง สีบรอนด์ ทะเบียน สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุ จอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในลานวัดไกรสรเขตราราม ม.4 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนขยายผลคดี และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ส่วนผู้เสียชีวิตภายในรถเป็นชายหนึ่งราย นอนเสียชีวิตอยู่ที่เบาะข้างคนขับ เบื้องต้นทราบชื่อเล่นคือ นายบาส หรือ นายอรรถพล อายุประมาณ 25 ปี ลูกชายของ ด.ต.อรรถพร ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามคนร้ายจนมาเจอรถมาจอดอยู่ภายในวัด
ทั้งนี้คาดว่าในวันก่อเหตุ ด.ต.อรรถพร ได้มาพร้อมกับนายธรรมรัตน์ หรือวัฒน์ ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งถูกยิงตายในที่เกิดเหตุ นายมานพ และนายอรรถพล หรือบาส ลูกชาย ทั้งหมดได้ไปร่วมก่อเหตุด้วยกัน และเกิดการดวลปืนกันจนนายบาส ลูกชายกระสุนปืนของอีกฝ่ายจนเสียชีวิต และขับรถหลบหนีมาจอดในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ด.ต.อรรถพรได้โทรไปหาพี่ชายที่บวชเป็นพระว่า ลูกชายถูกยิงตาย ก่อนนำรถมาจอดที่วัดดังกล่าว จากการชันสูตรพลิกศพนายอรรถพล ในที่เกิดเหตุ พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ศีรษะด้านขวา กระสุนทะลุออกทางด้านซ้าย หนึ่งนัด เจ้าหน้าที่ได้นำร่างส่งชันสูตรต่อที่รพ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด และยังเร่งติดตามจับกุมตัว ด.ต.อรรถพร และนายมานพ สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ยังหลบหนีอยู่ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนอาวุธปืนไม่สามารถอนุญาตได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควร”
คลิปอีจันแนะนำ
ใบเตย ป่วยกะทันหันขอศาลเลื่อนฟังสั่งฟ้องคดี Forex3D