
หนุ่มอดีตทหารเกณฑ์ควงปืนกราดยิงแฟนเก่า และชายรัก ดับสลดคาบ้าน 2 ศพ
เหตุการณ์น่าสลดนี้เกิดขึ้นภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ในชุมชนสระแก้ว เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นห้องบนบ้านไม้ 2 ชั้น พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย นอนอยู่ใกล้กัน
คือนาย กรกฎ อายุ 25 ปี และ นางสาว ฟ้า อายุ 24 ปี มีบาดแผลถูกยิงตามร่างกาย 4-5 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์ชันสูตรโรงพยาบาลรามาธิบดี จึงเข้าตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุ
นาย อนุพล น้าชายของผู้เสียชีวิตที่อยู่ห้องติดกัน เล่าว่า ช่วงเช้าตรู่ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นภายในห้องประมาณ 5 นัด เมื่อเปิดออกมาดูก็พบว่าทั้งสองคนถูกยิงตามร่างกายจนเสียชีวิตแล้ว
ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่มีเสียงการต่อสู้หรือการทะเลาะวิวาท เชื่อว่าคนร้ายตั้งใจเข้ามายิง โดยเป็นวัยรุ่นอายุประมาณ 19 ปี ที่อาศัยอยู่ภายในชุมชนเป็นคนพามา และไม่ทราบว่าเพราะอะไรถึงพาคนร้ายเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว
ตำรวจ สน.พญาไท เปิดเผยว่า นางสาวฟ้าได้ขอเลิกกับผู้ก่อเหตุ คือ อดีตพลทหาร มรกต ประภาโรจน์ หรือ เชิ้ต อายุ 24 ปี เป็นอดีตทหารเกณฑ์สังกัดกองทัพอากาศ
หลังจากขอเลิก นางสาวฟ้า ก็หนีมาพักอาศัยกับนายกรกฎที่บ้านหลังดังกล่าวได้ระยะหนึ่ง เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายจนทนไม่ไหว
ต่อมาพลทหาร มรกต ได้มาตามหาตัวนางสาวฟ้าในชุมชนหลายครั้งแต่ไม่พบ จนกระทั่งมีคนในชุมชนชี้เป้าพาผู้ก่อเหตุมาที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตทั้งสองคนจนเสียชีวิตภายในห้อง และหลบหนีไป
ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวคนชี้เป้าเอาไว้ได้จึงนำตัวไปสอบสวนที่ สน.พญาไท เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดตามจับกุมตัวคนร้าย
ด้านนาย วินัย หมื่นปราบ บิดาของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายไม่เคยมีปัญหากับบุคคลอื่นมาก่อน จนกระทั่งนางสาวฟ้ามาขอพักอาศัยด้วย ตนไม่ทราบมาก่อนมีคนมาพักด้วย ส่วนตัวผู้ก่อเหตุไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เชื่อว่าแรงจูงใจเกิดจากปัญหารักสามเศร้าหรือเรื่องชู้สาว
ด้านพันตำรวจเอก บวรภพ สุนทรเลขา ผู้กำกับการ สน.พญาไท เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี และจากการตรวจสอบบาดแผลของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน พบว่าฝ่ายชายถูกยิงด้วยกระสุนขนาด 11 มม 6 นัด ตามร่างกาย ส่วนฝ่ายหญิงถูกยิงตามศีรษะ และลำตัว 2 นัด และพบเขม่าที่มือของฝ่ายหญิง
เบื้องต้นสน.พญาไท จะรวบรวมพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อใช้ในการติดตามจับกุมตัวคนร้าย และจะประสานไปยังต้นสังกัดของผู้ก่อเหตุ หากกลับไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ต้นสังกัด ส่วนตัวผู้นำพาคนร้ายไปก่อเหตุ ขณะนี้ได้กันตัวไว้เป็นพยานแล้ว 3 คน และอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะดำเนินคดีในข้อหาใดหรือไม่