ใจดำ ทำกันได้ลงคอ
เจอเรื่องนี้ แล้ว ได้แต่ถอนหายใจ โถ่ มนุษย์ ทำไมไม่นึกถึงใจคนทุกข์บ้าง
อย่างที่เรารู้กันตอนนี้ ราคารับซื้อข้าว ถูกแสนถูก จนเปรียบได้ว่า มาม่า 1 ห่อ แพงกว่า ข้าว 1 กิโลกรัมซะอีก
เรื่องนี้ รู้กันทั้งประเทศ แต่ก็ยังมี คนใจดำ เติมทุกข์ซ้ำให้ชาวนา
ชาวบ้านแสนสุข ม.5 ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรัมย์ เล่าให้ทีมข่าวอีจัน ในจังหวัดบุรีรัมย์ ฟังว่า มีคนร้ายมาหลอกเอาข้าวสารที่สีเสร็จแล้ว ยกขึ้นรถหนีลอยนวล หน้าตาเฉย
ยายอ่อนสา อุประทา เจ้าของโรงสีข้าวขนาดย่อม ที่ตั้งขึ้นภายในหมู่บ้าน เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564
มีชายหญิง 2 คน อายุประมาณ 30-40 ปี สวมหมวกและหน้ากากอนามัย เดินเข้ามาในโรงสี ออกอุบาย บอกกับยายว่า
“น้าให้มาเอาข้าวสาร ที่เอามาสีไว้ตั้งแต่ตอนเช้า”
แล้วชี้ไปที่ข้าวสาร 4 กระสอบที่สีเสร็จแล้ว ยายก็คิดว่าเป็นคนในหมู่บ้านกันเอง ก็ให้ทั้งสองยกขึ้นรถไป 4 กระสอบ กระสอบละ 20 กิโลกรัม รวมก็ 80 กิโลกรัม
ส่วนยายก็สีข้าวต่อโดยไม่คิดเอะใจอะไร
ยายอ่อนสา เล่าต่อว่า ต่อมาเจ้าของข้าวตัวจริง มาถามหาข้าวที่เอามาสี ก็ตกใจ เพราะมีคนเอาไปแล้ว
ตอนนั้นก็ถึงบางอ้อ ยายโดนหลอกซะแล้ว
ยายอ่อนสา บอกว่า ยายทำอาชีพเปิดโรงสีข้าวนี้มา กว่า 20 ปีแล้ว ไม่เคยโดนหลอก และไม่คิดว่าจะโดนหลอกถึงในโรงสี
เราเอง ก็ไม่รู้จะตามข้าวสารกลับมาให้ลูกค้ายังไง จึงเอาข้าวสารของตัวเองให้ลูกค้าไป
ยายอ่อนสา ยังใจดี บอกกับเราว่า
“ลึกๆ ก็ไม่อยากคิดโกรธแค้นคนก่อเหตุ เนื่องจากเศรษฐกิจปัจจุบันที่ย่ำแย่อยู่แล้ว
หากข้าวที่เขาหลอกเอาไป ถ้าเอาไปหาเลี้ยงครอบครัวที่กำลังขัดสน ตนขออโหสิให้ แต่ถ้าทำเป็นกระบวนการก็ขอให้ถูกจับโดยเร็ว”
ลูกสาวของยายอ่อนสี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.หนองกี่ ฝากเตือนให้ทุกคนระมัดระวังเป็นหูเป็นตาบุคคลแปลกหน้า อย่าไว้ใจใครง่ายๆ
คลิปอีจันแนะนำ
ชาวนา ไม่ง้อโรงสี