สาวพิการบุกชิงทอง อ้างนำเงินไปเลี้ยงลูก

สาวพิการบุกชิงทอง นั่งรถไฟข้ามจังหวัดมาชิงทอง หนีไม่ไกลถูกรวบทันควัน อ้างหมดทนทาง ต้องหาเงินไปเลี้ยงลูกอีก 2 คน

วานนี้ (1 เม.ย. 2563) เกิดเหตุคนร้ายบุกชิงทองที่บริเวณห้างทองจงลักษณ์ ย่านถนนนเรศวร ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก แต่พลเมืองควบคุมตัวไว้ได้ทัน

ภาพจากอีจัน
ต่อมา พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ เขาไปตรวจสอบพร้อมกับได้ควบคุมตัว นางวิไลลักษณ์ โพธิรัตน์ อายุ 42 ปี (ผู้ก่อเหตุ) สภาพร่างกายพิการข้อมือแขนขวาด้วน ชาว ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 สลึง จำวน 1 เส้น เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ภาพจากอีจัน
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ก่อนหน้ามีอาชีพขอทาน และเดินทางด้วยรถไฟฟรีจาก จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา พร้อมกับลูก 2 คน อายุ 15 ปี และ 12 ปี กระทั่งเช้าได้เดินเข้าไปร้านทองจงลักษณ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก โดยมาขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ระหว่างที่เจ้าของร้าน นำทองออมาให้ดูจึงอาศัยจังหวะคว้าวิ่งออกจากร้านไปทันที กระทั่งวิ่งไปไม่ไกลได้ล้ม และถูกชาวบ้านคนในละแวกช่วยกันจับกุมตนเอง ซึ่งตนเองอยากนำเงินไปเลี้ยงลูก 2 คน เนื่องจากไม่มีรายได้อะไร ก็หวังว่าถ้าชิงทองไปแล้วก็จะนำไปขาย เพื่อหาเงินไปลงทุนขายผักอีกครั้ง แต่ก็กลับมาถูกจับตัวได้ในที่สุด
ภาพจากอีจัน
ด้านนางจุฑาทิพย์ อัศวชัยวัฒน์ อายุ 61 ปี เจ้าของห้างทองจงลักษณ์ เปิดเผยว่า ระหว่างขายทองอยู่ในร้าน ได้มีหญิงสาวหรือผู้ต้องหาคนดังกล่าว เดินเข้ามาขอดูสร้อยทองหนัก 1 สลึง ตนเองก็เริ่มสงสัยตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็ไม่กังวล เพราะราคาทองไม่มากเท่าไหร่ จึงได้หยิบให้ดู 1 เส้น โดยระวังตัวตลอดเวลา ระหว่างนั้นพูดว่าเอาเส้นนี้แหละ พร้อมกับคว้าสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง วิ่งออกไปทันที
ภาพจากอีจัน

ตนได้ตะโกนบอกคนในละแวกให้ทราบว่า มีคนชิงสร้อยทองคำ โดยมีคนที่เห็นเหตุการณ์วิ่งไล่ตาม จนกระทั่งควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมสร้อยคอทองที่อมไว้ในปาก จากนั้นได้แจ้งตรวจควบคุมไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นคนพิการแขนด้วน น่าจะก่อเหตุด้วยความจำเป็นเนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ตรวจสอบไม่พบประวัติ เดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์ พร้อมลูกอีก 2 คน ซึ่งทางตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก เพื่อติดต่อกับ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครสรรค์ มารับตัวลูกผู้ต้องหาดูแลอีกที ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดวิธี ไม่สมควรเป็นแบบอย่าง น่าจะมีหนทางในการหาเงินที่ดีกว่านี้ ทางตำรวจจึงได้ดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ต่อไป
ภาพจากอีจัน