20 ปี ก็หนีไม่รอด! รวบอดีต จนท.กรมธนารักษ์ ขโมยเหรียญกว่า 120,000 บาท มาใช้หนี้

กองปราบฯ รวบอดีตเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ แอบขโมยเหรียญกว่า 120,000 บาท มาใช้ อ้าง เป็นหนี้จึงยืมมาก่อน พอรู้ว่าเป็นคดี เลยหนีมาเกือบ 20 ปี

(29 พ.ค. 2563) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม บูรณนาการกับ นักสืบสวนคดีทุจริตชำนาญการ สำนักงาน ป.ปช. พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ร่วมกันจับกุม นายศุภชัย (สงวนนามสกุล) หรือ ธนิก อายุ 62 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1350/2549 ลง 22 มี.ค. 2549 ในความผิดฐาน
1. เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย
2. เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารกรอกข้อความลงในเอกสาร หรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสาร โดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น และกระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำการต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ
โดยจับกุมได้ที่ บริเวณทางสาธารณะ ซ.สุชาวดี ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
คดีนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2543 นายศุภชัย ซึ่งตอนนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ บริหารงานการคลัง สำนักกษาปณ์ กรมธนารักษ์ มีหน้าที่เก็บและดูแลรักษาเหรียญกษาปณ์ ได้เบิกเหรียญกษาปณ์เป็นเงินทั้งสิ้น 120,000 บาท แต่ไม่มีเอกสารขออนุมัติเบิก และได้นำเหรียญกษาปณ์ดังกล่าวออกจากสำนักกษาปณ์กรมธนารักษ์ ต่อมาถูกจับได้จึงถูกไล่ออกจากราชการ และให้ชดใช้เงินคืน 2 มิ.ย. 2549 ศาลได้อนุมัติหมายจับ เพื่อจับกุมมาดำเนินคดี ซึ่งหมายจับกำลังจะหมดอายุความ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ต่อมาตำรวจสืบสวนจนทราบว่า นายศุภชัย ได้หลบหนีมาอยู่ในบ้านพักหมู่ที่ 5 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ขออนุญาตศาลขอหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 405/2563 ลงวันที่ 26 พ.ค. 2563 ให้ทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว จนกระทั่ง 27 พ.ค. 2563 เวลา 06.15 น. ตำรวจเดินทางมาถึงบ้านพักดังกล่าว แสดงหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้น แต่ นายศุภชัย เห็นตำรวจ ก็เลยวิ่งหนีออกหลังบ้านไป ตำรวจจึงออกติดตามจับกุม ต่อมาเวลาประมาณ 08.30 น. ตำรวจไปพบว่า นายศุภชัย อยู่ริมถนนทางสาธารณะ ซ.สุชาวดี ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ส่งอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภาพจากอีจัน
สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลเก็บรักษาเหรียญกษาปณ์ แต่ช่วงดังกล่าวตนมีหนี้สินจึงได้นำเอาเหรียญจำนวน 120,000 บาท ออกไปใช้หนี้ โดยคิดว่าถ้ามีเงินจะนำมาใช้คืน แต่ถูกจับได้เสียก่อน หลังจากนั้น จึงถูกไล่ออกจากราชการ และได้ชดใช้เงินจำนวน 120,000 บาท ไปแล้ว ภายหลังทราบว่ามีคดี จึงได้หลบออกจากพื้นที่มาขายอาหารตามสั่ง จนสุดท้ายมาหลบอยู่บนพักหลังดังกล่าวได้ประมาณเกือบ 2 ปี จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบ