รวบ! แม่บ้านอดีตดาราดัง ขโมยเครื่องเพชรนับล้าน 

สืบนครบาล บุกรวบแม่บ้านของ “บลู เอลิกา” อดีตดาราดัง ขโมยเครื่องเพชรนับล้านบาท เผย! เคยให้โอกาสแล้วแต่สุดท้ายหนีหาย อ้างติดหนี้นอกระบบ

คนที่ไว้ใจ! สุดท้ายร้ายที่สุด 

วานนี้ (13 ก.ย 67) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 4 จับกุมตัว นางสาวบัว อายุ 30 ปี ชาวตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3991/2567  ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง” 

โดยถูกจับกุมหน้าห้องพัก ซอยลาดกระบัง 3 ถนน ประชาทร แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดของกลาง  

– แหวนทองคำหัวพลอย 2 วง 

– สร้อยคอสีเงิน จี้รูปไม้กางเขนสีเงิน 1 เส้น 

สืบเนื่องจาก นายธัญร์นากร สามีของอดีตดาราดัง บลู เอลิกา เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ไท สว่างจิต รองสารวัตร (สอบสวน) สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีกับแม่บ้าน ในข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเวลากลางคืน โดยเหตุเกิดในบ้านพักย่านรามคำแหง กรุงเทพ 

บลู เอลิกา เล่าว่า รู้จักกับแม่บ้าน มาเป็นเวลานานนับ 10 ปี ซึ่งมาขอความช่วยเหลืออยู่ตลอด ด้วยความเห็นใจว่าลูกยังเล็กและมีลูกถึง 3 คน จึงได้ให้ความช่วยเหลือหางานให้ทำ คือจ้างเป็นแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดแบบเช้า-เย็นกลับ 

และเมื่อวันที่ 17 ส.ค.67 สามีได้ตรวจทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน พบว่า แหวน, สร้อยข้อมือ, สร้อยพร้อมจี้ ได้หายจากที่เก็บของทั้งหมด ซึ่งคิดว่าเป็นแม่บ้านขโมยไป เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเหตุให้สงสัย เนื่องจากเมื่อปลายปี 2566 พบว่าเงินหายไปจำนวนหลายพันบาทจากห้องนอน แม้กระทั่งสายชาร์จไอโฟนของแท้ และแม่บ้านได้แจ้งว่า จะซื้อมาคืน แต่ก็ไม่ได้ซื้อมาคืน และแอบถอดสายกล้องวงจรปิดอยู่ตลอด 

ต่อมา วันที่ 18 ส.ค.67 แม่บ้านได้เดินทางมาทำงานที่บ้าน ก็มีการพูดคุยกันปกติ ส่วนสามีกำลังออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน แต่ลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนห้อง จึงได้กลับเข้าบ้านและขึ้นไปบนห้อง พบว่าแม่บ้านกำลังรื้อค้นทรัพย์สินที่บริเวณหัวเตียง เพื่อที่จะขโมยทรัพย์สินเพิ่ม จึงได้พูดกับแม่บ้านว่า “ให้กลับตัวกลับใจใหม่ เอาของเก่าที่ได้ขโมยไปมาคืน” จากนั้นก็ย้ายออกจากบ้านไปเพื่อให้โอกาส แต่ต่อมาทราบว่าเมื่อแม่บ้านกลับบ้านของตนที่ย่านอ่อนนุช ก็ได้ขนของหนีออกจากที่พัก และไม่สามารถติดต่อได้อีก 

ซึ่งผู้เสียหายได้ตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปอีกครั้ง เบื้องต้นพบทรัพย์สินที่หายไป จำนวน 4 รายการ ดังนี้  

1. แหวนทองหัวพลอย 2 วง มูลค่า 300,000 บาท 

2. แหวนทองคำขาว จำนวน 4 วง มูลค่า 680,000 บาท   

3. กำไรฝังเพชร จำนวน 1 วง มูลค่า 65,000 บาท  

4. พลอดเม็ดสีแดง จำนวน 1 วง มูลค่า 120,000 บาท 

รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 1,165,000 บาท 

จึงได้เดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  

จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในบ้านไปจริง สาเหตุที่ทำไปเพราะมีปัญหาหนี้สินและเป็นหนี้นอกระบบ ส่วนทรัพย์สินที่เอาไป ตนได้นำไปจำนำกับโรงรับจำนำและคนรู้จัก แต่ยังมีเหลืออยู่ที่ตนเอง ซึ่งก็คือของกลางที่ตำรวจตรวจยึดได้ จากนั้นได้นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้กับเจ้าของบ้าน หรือที่ทำงาน ซึ่งหนึ่งในปัญหาหนักใจคือ เราจะรู้ได้ไงว่าแม่บ้านที่จ้างมา สามารถเชื่อใจได้ สิ่งเหล่านี้เจ้าของบ้านจำเป็นต้องสังเกตพฤติกรรม และดูประวัติส่วนตัวทั้งภูมิหลัง และการทำงาน ด้วยการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเพื่อเพิ่มความระมัดระวัง