ตร. จับโจรวิ่งราว จ.ชลบุรี หลัง กระชากสร้อยเหยื่อ จนมุมเพราะรอยสัก

ตร. ภ. 2 ร่วม สภ. หนองขาม จ.ชลบุรี จับโจรวิ่งราว หลัง กระชากสร้อยเหยื่อ ต้องจนมุมเพราะรอบสัก ที่แขนขวา รูปหน้าปีศาจ

วันนี้ (21 ก.ค. 65) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพิรุน หรือ “บอล พนัสนิคม” อายุ 38 ปี ชาวต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.364/2565 ลงวันที่ 21 ก.ค. 65 พร้อมของกลาง

1.รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ทะเบียนจ.ชลบุรี ซึ่งเป็นคันที่ใช้ก่อเหตุ

2.สร้อยคอลักษณะคล้ายทองคำ 1 เส้น ที่ได้มาจากการก่อเหตุ

3.หมวกกันน๊อค สีดำ 1 ใบ ใส่ก่อเหตุ

4.เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีเหลือง-กรมท่า 1 ตัว ที่คนร้ายใส่ก่อเหตุ

5.กางเกงยีนส์ขายาวสีกรมท่า 1 ตัว ที่คนร้ายใส่ก่อเหตุ

6.รองเท้าแตะแบบสวมสีดำ ที่คนร้ายใส่ก่อเหตุ

พร้อมกับกล่าวหาว่า “วิ่งราวทรัพย์ผู้อื่น” จับกุมได้ที่ริมถนนหน้าเคหะแหลมฉบัง หมู่ 8 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2565 เวลาประมาณ 16:30 น. ได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนสุขาภิบาล 8 แล้วมาจอดรออยู่บริเวณหน้าร้านขายเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ในม.11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ขณะนั้นได้มี น.ส.จี ปา อู อายุ 36 ปี สัญชาติเมียมาร์ ผู้เสียหาย เดินผ่านมาบริเวณถนนดังกล่าวพอดี คนร้ายได้วิ่งเข้าไปกระชากสร้อยคอของผู้เสียหาย จนผู้เสียหายล้มลง ส่วนคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาตัวคนร้าย เนื่องจากก่อเหตุอุกอาจท้าทายกฏหมายในเวลากลางวัน กลางถนนสาธารณะ ชุดสืบสวนพบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งพบว่า คนร้ายได้นำทองไปจำนำที่ร้านทองแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยได้ใช้บัตรประชาชนชื่อ นายพิรุณ ให้กับร้านทองเอาไว้ จึงได้สืบสวนเปรียบเทียบนายพิรุณกับภาพจากกล้องวงจรปิด โดยวิเคราะห์จากรอยสักรูปหน้าปีศาจที่แขนขวา ซึ่งตรงกันกับคนร้ายในวันเกิดเหตุ

จึงติดตามจนพบตัว นายพิรุณ พร้อมของกลางที่ใช้และได้มาจากการก่อเหตุ โดยคนร้ายยอมรับเพราะจำนนต่อหลักฐาน รอยสักที่แขนข้างขวา ก่อนก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ตระเวณเพื่อหาเหยื่อ เมื่อสบโอกาสจึงก่อเหตุดังกล่าว หลังก่อเหตุได้นำสร้อยคอพร้อมจี้รูปหัวใจ ไปจำนำที่ร้านทอง และร้านทองรับจำนำไว้เฉพาะจี้รูปหัวใจทองคำเท่านั้น ส่วนสร้อยคอไม่รับจำนำ ได้เงินมา จำนวน 6,860 บาท ได้นำเงินมาจ่ายหนี้ค่าห้องเช่าและเสพยาบ้าจนหมด สำหรับแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ เนื่องจากติดหนี้ค่าเช่าห้อง และเพื่อหาเงินมาซื้อยาเสพติดไว้เสพ เนื่องจากติดยาเสพติด ต้องเสพอย่างน้อยสัปดาห์ละประมาณ 2 ครั้ง จากการตรวจสอบประวัติก็พบว่า ผู้ต้องหาเคยมีประวัติถูกจับกุม เพราะเมื่อปี พ.ศ. 2549 เคยก่อเหตุร่วมกันวิ่งราวทรัพย์มาก่อน

คลิปแนะนำอีจัน
รีวิวถนนทางเข้าบ้านแม่ยาย