ภาพกล้องวงจรปิดของร้านรับจัดโต๊ะจีนงานเลี้ยง ในพื้นที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น บันทึกภาพวินาทีเด็กผู้ชาย 3 คน มาวิ่งเล่นวนเวียนอยู่ตรงข้ามร้าน ซึ่งมีรถจักรยานยนต์พนักงานจอดอยู่ เหตุเกิดวันที่ 6 พ.ย.65 ที่ผ่านมา
เด็กทั้ง 3 คน ได้ใช้กุญเเจผี ไขรถจักรยานยนต์หลายคันแต่ไม่สำเร็จ
ก่อนที่หนึ่งในเด็กชายจะสังเกตเห็นว่ามีกุญแจเสียบคาอยู่ที่เบาะรถ จึงวิ่งไปบอกเด็กชายอีก 2 คน พากันไขกุญแจ โดยเด็กชายหนึ่งคนนั่งเบาะด้านหน้าคอยควบคุมแฮนด์รถ ส่วนเด็กชายอีกคนกำลังพยายามใช้เท้าถีบสตาร์ทรถจักรยานยนต์ จนเครื่องติดเเล้วขับหนีไปอย่างรวดเร็ว
ล่าสุด วันนี้ (7 พ.ย.65) น.ส.เพ็ญนภา เจ้าของร้านโต๊ะจีน เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ เป็นช่วงที่กำลังจัดเตรียมสิ่งของเพื่อจะไปจัดโต๊ะจีนให้ลูกค้า ลูกจ้างเลิกงาน จะกลับบ้าน เเต่ไม่เจอรถของตัวเอง จึงตรวจสอบวงจรปิดที่ร้าน จนพบว่า มีเด็กชาย 3 คน ร่วมกันขโมยรถไป จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.มัญจาคีรี ให้ทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายทั้ง 3 คน
ต่อมา ตำรวจตรวจสอบพบว่า เจอรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยไปถูกทิ้งไว้ในป่าละเมาะ ในพื้นที่ ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ปกครองของเด็กชายทั้ง 3 คน ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน โดยแจ้งให้ทราบว่า รถที่ตำรวจตรวจยึดมานั้น เป็นรถที่ เด็กชาย เอ เด็กชาย บี อายุ 11 ปี เท่ากัน เรียนอยู่ชั้น ป. 5 โรงเรียนในพื้นที่ และเด็กชาย ซี อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป. 4 โรงเรียนในพื้นที่ ร่วมกันขโมยไปขี่เล่น และเอาไปจอดไว้ที่ป่าละเมาะ จุดที่ตำรวจไปตรวจยึดมาได้
ตำรวจ เผยว่า ได้รับข้อมูลจากพลเมืองดีว่า เห็นเด็กชายทั้ง 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดไว้แล้วพากันเดินกลับบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำผู้เสียหาย มีผู้ปกครองของเด็กชายทั้ง 3 คนมาแสดงตัว พนักงานสอบสวนจึงนัดสอบปากคำผู้เสียหายและผู้ปกครองของเด็กชายในวันที่ 8 พ.ย.นี้ เพราะเป็นเด็ก การสอบสวนต้องประสานทีมสหวิชาชีพ และต้องให้ผู้ปกครองรับทราบ รับรู้พฤติกรรมของบุตรหลานตัวเองด้วย
ซึ่งภายหลังการสอบสวนก็จะต้องส่งศาลเพื่อพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งอาจจะถูกแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และถูกส่งเข้าสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดขอนแก่นก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดให้ชัดเจนว่า เด็กชายทั้ง 3 คน ที่ลงมือร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์ในครั้งนี้นั้น มีผู้ใหญ่หรือใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่
คลิปอีจันแนะนำ
ซุ่ม ดัก จับ กัมพูชาตัดไม้