6 พฤษภาคม 2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ดำเนินคดีกับ
1) นายคม หรือ พระอาจารย์คม อายุ 39 ปี ผู้ต้องหา
ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้น
เป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”
2) นาย วุฒิมาฯ หรือพระหมอ อายุ 38 ปี
ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของ
ตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”
3) น.ส.จุฑาทิพย์ฯ อายุ 35 ปีผู้ต้องหา
ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์
นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และรับของโจร”
รวจสอบสวนกลาง (CIB) ให้ข้อมูลว่า
หลังจากได้รับประสานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ทำการตรวจสอบพฤติกรรมของ นายคม หรือพระอาจารย์คม ประธานฝ่ายสงฆ์ของวัดป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่ามีการทุจริตเงินวัดหรือไม่อย่างไรนั้น
ทางตำรวจจึงสืบสวนและเข้าทำการตรวจสอบภายในวัด พบว่า พระอาจารย์คม พระผู้ดูแลการใช้จ่ายเงินต่างๆ ของวัดรวมถึงเงินที่ญาติโยมมีจิตศรัทธาร่วมทำบุญกับทางวัด มีพฤติการณ์นำเงินทำบุญบางส่วนของวัดไปใช้จ่ายส่วนตัว
โดยสั่งการให้เจ้าอาวาสนำเงินสดไปมอบให้ น.ส.จุฑาทิพย์ น้องสาว อดีตพระอาจารย์คม เพื่อฝากเข้าบัญชีธนาคาร
ซึ่งจากการสอบปากคำ อดีตพระอาจารย์คม รับสารภาพว่าได้นำเงินของวัดออกมาจริง ตำรวจจึงทำการสืบสวนเพิ่มเติม และเข้าค้นบ้านพักของ น.ส.จุฑาทิพย์ พบเงินสดกว่า 51 ล้านบาท เงินสดถูกเก็บไว้ในลังโฟมและกระเป๋าเดินทาง และพบเงินวัดที่อยู่ในบัญชีเบื้องต้นกว่า 130 ล้านบาท รวมยอดกว่า 180 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทาง อดีตพระอาจารย์คม ยังให้การเพิ่มถึงสาเหตุที่ ลาสิขา หลังเกิดเหตุว่า ครั้งยัง ถือสมณเพศนั้น ได้มีการเสพเมถุนภายในกุฏิของวัดซึ่งถือเป็นการอาบัติปาราชิก ตามข้อบัญญัติทางธรรมวินัย จึงสมัครใจที่จะลาสิกขา
คลิปอีจันแนะนำ
พระอาจารย์คม ฉาววงการ ผ้าเหลือง!