วันนี้ (13 ต.ค.2566) เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านพักของนายจิรายุ สุกใส อายุ 24 ปี ที่ ตอ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของนายจิรายุ สุกใส อายุ 24 ปี แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานเลี้ยงไก่ ที่ประเทศอิสราเอล บริเวณฉนวนกาซ่า โดยเดินทางไปกับกรมแรงงาน เมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา
จนกระทั่งเกิดการสู้รบกันของกลุ่มฮามาส ปาเลสไตน์ และ ทหารของประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 ถึง 8 ต.ค.66 และต่อมา ถูกทหารกลุ่มฮามาส บุกข้ามแดน เข้ามายิงในแคมป์คนงาน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะพักผ่อนอยู่ในแคลมป์ จนกระทั่งมีทหารอิสราเอลเข้ามาช่วยเหลือ ไว้ได้ทันเวลา และนายจิรายุถูกยิงเข้าไหล่ขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ ต่อมานายจ้างได้นำพาส่งไปรักษาที่ รพ.จนปลอดภัย
จากนั้นนายจิรายุ ได้โทรศัพท์ หาญาติที่ทำงานอยู่ในจ.กรุงเทพฯ เพื่อช่วยประสานงาน ในการเดินทางกลับประเทศไทย และได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงแรงงาน ของไทย ที่ติดตามและประสานงานนำตัวนายจิรายุ กลับประเทศไทย ในวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ณ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต่อมานายจิรายุ ได้รับการตรวจเบื้องต้น จากนั้นญาติได้พานั่งรถกลับบ้านเกิดที่บ้านโพธิ์ ต.พรหมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา
และในเช้าวันนี้ (13 ต.ค.66) นายกำจร สุกใส พร้อมด้วยนางจำรัส สุกใส พ่อกับแม่ของนายจิรายุ พร้อมด้วยบรรดาญาติๆ ซึ่งเป็นผู้อาวุโสทั้งตา ยาย ปู่ ย่า พี่ป้า น้าอา กว่า 20 คน ได้รวมกัน ประกอบพิธีเรียกขวัญให้กับนายจิรายุ โดยนำเอารูปคุณ ตา ตั้งบูชาด้วยเครื่องอาหารคาว และอาหาร พร้อมทั้ง น้ำหวาน เครื่องดื่ม ด้ายสายสินน์ สีเหลือง มาประกอบเรียกพิธีเรียกขวัญ ผูกแขน ให้กับนายจิรายุ เพื่อให้มีขวัญกำลังใจ ในการดำเนินชีวิต ต่อไป
โดยนายจิรายุ สุกใส กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ของไทย ประสานงานให้ตนได้เดินทางกลับบ้านพร้อมคนงานคนอื่นๆอีกหลายคน ตนเองถูกยิงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ในช่วงเวลา 7 โมงเช้า ตนกับคนงานไทยและคนงานต่างประเทศ อีก 5 คน พากันหลบอยู่ในห้องพัก และได้ยินเสียงปืนดังเข้ามาในบริเวณที่พัก เสียงปืนดังมาก พวกตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิงในช่วงแรกๆ ตนและพวกพากันแอบอยู่ในห้องให้เงียบที่สุด พอเสียงปืนเงียบลง จนกระทั่ง ตนเห็นคนตาย นอกที่พัก 4 คน เป็นพวกที่เข้ามายิงพวกตนช่วงเช้า ตนเองถูกยิงเข้าที่ ไหล่ขวา ได้รับบาดเจ็บ พอช่วงสาย วันที่ 8 ต.ค.66 ก็ประสานกับนายจ้าง นำตัวไปรักษา ที่ รพ. และประสานกับญาติเพื่อขอกลับประเทศ
ส่วนเพื่อนคนไทยที่หลบในที่พัก ด้วยกันหายตัวไปตั้งแต่วันปะทะวันแรกคนหนึ่ง ทิ้งแต่โทรศัพท์ไว้ ไม่ทราบว่าหนีไปไหน และช่วงที่ตนเองถูกยิง และหลบในที่พัก ก็ได้แต่คิดถึง พ่อกับแม่ให้ช่วยชีวิตให้ปลอดภัย เพราะถูกยิงเข้าที่ด้านหลังไหล่ขวา พระที่ห้อยที่คอ นำขึ้นมาพนมมือไหว้ ขอให้คุ้มครองชีวิต เป็นพระที่ตนเองเคารพนับถือ ท่านชื่อว่าหลวงตาพงษ์ พรหมสโร วัดโพธิ์ศรีสว่าง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ตนขอพรให้ปลอดภัยสุดท้ายก็เป็นดังที่ขอไว้จริงๆ ส่วนจะกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกหรือไม่ ขอคิดดูอีกที
ด้านนายกำจร สุกใส อายุ 48 ปี ผู้เป็นพ่อ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมาก ที่ลูก ปลอดภัย แม้จะถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวา แต่ก็ไม่สาหัสมาก ได้รับการรักษาในเบื้องต้นแล้ว หลังจากประกอบพิธีเรียกขวัญเสร็จ ก็จะพาไปหาหมอ เพื่อรักษา ให้ดีขึ้น ตนเองขอบคุณหน่วยงานราชการทุกหน่วยที่ช่วยพาลูกกลับมาถึงบ้านจนปลอดภัย
ขณะที่ผู้เป็นแม่ นางจำรัส สุกใส อายุ 42 ปี บอกว่า ดีใจมากที่ลูกเดินทางกลับถึงบ้านแล้ว ได้ทำพิธีเรียกขวัญให้เขาเพื่อเขาจะได้มีกำลังใจ มีญาติมาร่วมงานหลายคนดีมาก พร้อมขอบคุณหน่วยงานราชการต่างๆที่ให้ความช่วยเหลือให้ลูกได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยแม้จะได้รับบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่ไม่อันตรายถึงชีวิตขอบคุณมากจริงๆ
