เป็นเรื่องราวที่หดหู่ใจสุดๆ ค่ะ หัวอกคนเป็นแม่เหมือนตกนรกทั้งเป็น เมื่อลูกในไส้ติดยาบ้าหนัก ขู่ฆ่า ขู่ทำร้ายร่างกายทุกวัน
วานนี้ (11 มี.ค.68) นางหัสดี หรือป้าลี อายุ 56 ปี อดีต สมาชิก อบต. ชาวบ้านหนองนกทา ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้ออกมาโพสต์คลิปผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย หลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหา ลูกชายฝาแฝด อายุ 23 ปี ติดยาบ้าหนักมานานหลายปี บางวันเกิดอาการหลอน โมโหร้าย พยายามทำร้ายร่างกายแม่ เนื่องจากขอเงินไม่ได้ เคยพาไปบำบัดรักษาแต่ไม่หาย กลับมาเสพอีก จนต้องทำห้องมีเหล็กดัดขังตัวเองไว้เวลาอยู่บ้าน เนื่องจากหวาดผวาว่าลูกชายจะทำร้ายร่างกาย พร้อมวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องมาตรวจสอบช่วยเหลือ
ล่าสุด ทางผู้ข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เป็นบ้านพักอยู่ในสวนยาง ท้ายหมู่บ้าน พบนางหัสดี มีสีหน้าเคร่งเครียด ออกมาเล่าปัญหาต่อผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ศรีสงคราม ยืนยันเหมือนตกนรกทั้งเป็น เนื่องจากลูกชายฝาแฝดสองคน คือ นายเมธี กับ นายเมธา อายุ 23 ปี ติดยาเสพติดมานานเกือบ 10 ปี ไม่เรียนหนังสือ ชอบตั้งกลุ่มมั่วสุมเสพยาบ้าภายในบ้านพักสวนยางพารา
หลังเสพยาเสพติด ยาบ้าจะเกิดอาการ หลอนโวยวาย โมโหร้าย ดุด่าแม่ไม่มีเหตุผล และมีพฤติกรรมชอบขอเงินแม่ หากไม่ให้จะขู่ทำร้ายและพยามทำร้ายร่างกาย จนต้องทำห้องเหล็กดัดขังตัวเองไว้ในบ้าน เวลาจะนอนหรือพักผ่อน บางวันต้องหนีไปอยู่บ้านญาติ คิดหาทางออกไม่เจอจึงออกมาถ่ายคลิปโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลสะท้อนปัญหา วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลือ เคยประสานฝ่ายปกครอง นำไปบำบัดฟื้นฟู กลับมาบ้าน เสพเหมือนเดิม แก้ไม่ตก
ขณะเดียวกัน ได้พบแฝดคนพี่ คือ นายเมธี อายุ 23 ปี มีอาการหงุดหงิด ไม่พอใจที่มาพูดคุย และมีการต่อว่าแม่ ว่าไม่เข้าใจตัวเอง นอกจากนี้ยังยอมรับว่าเสพยาบ้า ว่าเป็นปกติ วันละประมาณ1-2 เม็ด ตามประสาวัยรุ่น โดยไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัวตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ งานหลักคือกรีดยางขาย และนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ อีกทั้งยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติของกลุ่มวัยรุ่นละแวกนี้เสพกันทุกคน ส่วนแฝดน้อง นายเมธา ยังไม่เข้าบ้าน โดยทางแม่ยืนยันว่าเสพทั้งสองคน และมีพฤติกรรมก้าวร้าวหลังเสพยา
ทั้งนี้ ทางด้านตำรวจชุดสืบสวน สภ. ศรีสงคราม ได้ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน และมีการตรวจยึดอาวุธปืนแก๊ปจำนวน 2 กระบอก เป็นหลักฐาน เพื่อประกอบการดำเนินคดี และจะได้สอบสวนหาทางเอาผิดตามกฎหมาย ในข้อหาพยายามทำร้ายร่างกายแม่ เนื่องจากหากเผาผิดคดีเสพ จะไม่สามารถดำเนินคดีได้เป็นได้แค่ผู้ป่วยเสพยา และนำตัวไปหาแนวทางบำบัดฟื้นฟู พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชนหมู่บ้านมาช่วยสอดส่องดูแล แนะนำแม่ให้ไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
โดยแม่พร้อมจะให้ดำเนินคดีลูกชายทั้ง 2 คน ให้ถึงที่สุด เพราะสุดทนกับพฤติกรรม
เป็นกำลังใจให้คุณแม่และเจ้าหน้าที่ทุกคนนะคะ เห็นแล้วหดหู่ใจจริงๆ ค่ะ หากมีความคืบหน้าจะอัปเดตให้ทราบ
