ทลายรัง โกดังแปดริ้ว ! ยึด ” ยาเค ” ล็อตมหึมา มูลค่ากว่า 2.8 หมื่นล้านบาท

จับ ” ยาเค ” ล็อตมหึมา ซุกโกดังแปดริ้ว มูลค่ากว่า 2.8 หมื่นล้าน รมว.ยุติธรรม เผย เป็นล็อตใหญ่สุดเท่าที่เคยจับได้ในไทย เตรียมขยายผลต่อ

วันนี้ (12 พ.ย.63) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เดินทางมาตรวจสอบการตรวจยึดเคตามีน (ยาเค)เครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ หลังจากที่ ป.ป.ส.ได้รับข้อมูลจากทางการไต้หวัน ว่า มีการลักลอบส่งออกเคตามีน 300 กิโลกรัมไปยังไต้หวัน

จากการสืบสวนพบ โกดังต้นทาง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้น พบ เคตามีน บรรจุในถุงกระสอบรวมน้ำหนักประมาณ 11,500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 28,750 ล้านบาท ตามราคาขายปลีก ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดที่เคยจับมาในประเทศไทย และคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายส่งออกยาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ จึงเตรียมสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ พร้อมดำเนินการยึดทรัพย์สินต่อไป

นายสมศักดิ์ รมว.กระทรวงยุติธรรม เผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการบูรณาการของโครงการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่อากาศยาน (AITF) ซึ่งมีความร่วมมือระหว่างตำรวจปราบปรามยาเสพติด ทหาร ศุลกากร การท่า และหน่วยงานจากกลุ่มอาชีพ และกำลังสำคัญ คือ ป.ป.ส.ที่เข้าติดตามเครือข่ายนี้มานานถึง 2 เดือน

จนกระทั่งทราบว่าโกดังแห่งนี้มีการนำยาเคตามีนเป็นจำนวนมาพักไว้ เพื่อเตรียมจะส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งเป็นปลายทางของการส่งยาครั้งนี้ โดยยาเคตามีนนั้นจะนิยมใช้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ นักท่องราตรียามค่ำคืน เมื่อเสพเข้าไปแล้วจะเกิดอาการประสาทหลอน และทำลายระบบของสมอง

ด้านนายวิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยว่า เส้นทางการลำเลียงยาเสพติดนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบประเทศต้นทาง แต่เชื่อว่ามีการลำเลียงผ่านบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย ก่อนนำเข้ามาพักที่โกดังแห่งนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบผู้ต้องสงสัยเป็นคนไทย 2 คน ทำหน้าที่ในการลำเลียง ยาเคตามีนทั้งหมดมาไว้ที่โกดังนี้ เชื่อว่า เบื้องหลังเป็นแก๊งค้ายาข้ามชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวและขยายผลต่อไป

ด้าน พล.ต.ท. มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า คดีนี้ เป็นคดีใหญ่ระดับโลก ทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดจะทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนร่วมกับ ป.ป.ส. และหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อนำผู้ต้องหามาดำเนินคดี และทำการยึดทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป