ให้ออกราชการ! ดาบตำรวจรับจ้างขนฝิ่น

จากกรณี ด.ต.คมภูศิษฐ์ ธนดาวพิจารณ์ อายุ 50 ปี ตำรวจ สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ และ นางกรณ์กาญจน์ ธนดาวพิจารณ์ ภรรยา อายุ 47 ปี ถูกจับกุมที่ด่านตรวจแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง ฝิ่นดิบ 50 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 80 กิโลกรัม ซุกซ่อนในท้ายรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียนเชียงใหม่ พร้อมอาวุธปืนอีก 2 กระบอก โดยเจ้าตัวสารภาพว่า รับจ้างเป็นเงิน 75,000 บาท ขนฝิ่นดิบจาก อ.ฝาง ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ แต่มาถูกจับได้เสียก่อน

ล่าสุดวันนี้ (17 พ.ค. 66) พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ เผยว่า ได้มีคำสั่งให้ ด.ต.คมภูศิษฐ์ ออกจากราชการทันที พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนดาบตำรวจนายนี้ หากพบมีการกระทำผิดข้อหาอื่นอีกก็จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติม

จากการสอบสวน ด.ต.คมภูศิษฐ์ รับสารภาพว่า ได้ลักลอบขนฝิ่นจากอำเภอฝางนำไปวางตามจุดต่าง ๆ ให้เครือข่ายมารับต่อ โดยทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุกับเครือข่ายที่เป็นชนเผ่า ไม่มีเพื่อนตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) ไว้เพื่อจำหน่าย พร้อมขยายผลหาเครือข่ายที่ร่วมขบวนการต่อไป

สำหรับดาบตำรวจผู้ต้องหารายนี้ จากการตรวจสอบพบว่าพื้นเพเป็นคนชนเผ่า ไม่พบเสพหรือติดยาเสพติด ที่ผ่านมามีการตรวจปัสสาวะตามโครงการตำรวจสีขาวที่ก็ไม่พบสารเสพติด แต่เป็นผู้ค้า

ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตำรวจภูธรเชียงใหม่ได้มีการกวดขันดูแลมาตลอด ไม่ให้ตำรวจในสังกัดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ก็ยังมีตำรวจที่ยังประพฤติชั่วประพฤติผิดอยู่ ซึ่งทางตำรวจภูธรเชียงใหม่ก็ต้องดูแลกวดขันกันต่อไป