เตย นัท แถลงปม ท้องทิพย์ อ้าง เพราะรัก จึงเลยเถิด สร้างเรื่องโกหก

ทำเพราะรัก เตย นัท แถลงปม ท้องทิพย์ อ้าง เพราะรัก จึงเลยเถิด สร้างเรื่องโกหก

บทสรุป ? กรณี #ท้องทิพย์ เรื่องโอละพ่อที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักของคนในสังคม

เตย ขอโทษที่ทำให้เรื่องบานปลาย ไม่กล้าบอกความจริง กลัวแฟนผิดหวัง

ล่าสุด (24 พ.ค. 64)

หลังตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ส่งตัว เตย สาวท้องทิพย์ ฟ้องต่อศาลแขวงสุพรรณบุรี ในข้อหา “แจ้งความเท็จ” ซึ่งศาลอนุมัติประกันตัว และปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี

ต่อมานายนัท สามี และ เตย สาวท้องทิพย์ ได้ตั้งโต๊ะแถลง ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี ที่อ้างว่าคลอดลูกแฝด แล้วโรงพยาบาลทำศพลูกชายฝาแฝดหาย

เตย ยอมรับว่าตนเองเป็นคนแต่งเรื่องขึ้นมาทั้งหมด และทำเพียงคนเดียว แต่ยืนยันว่าเคยตั้งครรภ์จริง เพราะเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ตนซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเอง แล้วขึ้น 2 ขีด

ต่อมา เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ตนเองแท้ง เพราะมีเพศสัมพันธ์กับสามี แล้วมีก้อนเลือด หลุดออกมา 2 ก้อน แต่ก้อนเลือดดังกล่าว ไม่มีลักษณะของการเป็นเด็กทารก หรือมีแขนขา อวัยวะอื่นๆ แต่อย่างใด จึงคิดว่าตนเองท้องลูกแฝดแล้วแท้ง ด้วยความตกใจ ตนจึงราดน้ำทิ้ง

หลังจากแท้งลูก ตนก็ไม่ได้ไปพบแพทย์ เพื่อขูดมดลูกหรือตรวจร่างกายแต่อย่างใด เนื่องจากกลัวสามีจะรู้ความจริง เพราะสามีอยากมีลูกมาก กลัวว่าหากตนเองบอกความจริงเเล้ว สามีจะเสียใจและทิ้งตนไป

ด้วยเหตุการณ์ข้างต้น ทำให้ตนแต่งเรื่องสร้างสถานการณ์ให้เหมือนว่า ยังท้องลูกแฝดอยู่ โดยให้สามีไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจท้อง หาภาพอัลตร้าซาวด์เด็กจากอินเตอร์เน็ต ถ่ายคลิปขณะที่ลูกดิ้นลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งคลิปที่นำไปลงเป็นคลิปก่อนหน้าที่ตนจะแท้งลูก

ต่อมา เดือนพฤษภาคม 2564 ตนได้เข้ารักษาตัวด้วยอาการปีกมดลูก และอุ้งเชิงกรานอักเสบ ซึ่งคาดว่า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องของตนเอง บวม เหมือนคนตั้งครรภ์ จนกระทั่งสร้างเรื่องว่า มาคลอดลูกแฝด แล้วลูกเสียชีวิต ซ้ำยังสร้างเรื่องว่า คลอดลูกแล้วก็กลับมาบีบน้ำนมใส่ถุง ซ่อนไว้ในซอกตู้ภายในห้องนอนเพื่อที่จะเตรียมไว้ใช้โกหกต่อ

ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ตนมารับศพลูกชายจากโรงพยาบาล ซึ่งได้วางแผนห่อศพลูก ในร้านกาแฟ เพราะเห็นว่าเป็นมุมเงียบ ก่อนจะอ้างกับสามี และคนในครอบครัวว่า ไม่สามารถเปิดดูหน้าได้เพราะ โรงพยาบาลแจ้งว่า ศพติดเชื้อ

หลังจากที่มีการเปิดโลงและพบว่าไม่มีศพเด็ก ตอนนั้นตนร้องไห้ด้วยความกลัวว่าเรื่องจะแดง เพราะตอนนั้นยังหาทางโกหกต่อไม่ได้

ส่วนสาเหตุที่ตนไปร้องเรียนโรงพยาบาล ว่าทำศพลูกหาย และไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดัง เป็นการไหลตามน้ำเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะเรียกเงิน จากโรงพยาบาล สิ่งที่โกหกเป็นการคิดวันต่อวัน ณ นาทีนั้น ไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้า ที่เรื่องบานปลายมาจนถึงตอนนี้ เป็นเพราะตนคิดไม่ทัน จึงสร้างเรื่องโกหกไปเรื่อยๆ

ตอนนี้ตนยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตนเอง ทั้งเรื่องการถูกโรงพยาบาลแจ้งความ และความสัมพันธ์ของตนกับสามี ที่อาจจะต้องเลิกรากัน และอยากขอโทษสังคมรวมถึงสื่อมวลชนที่ออกมาช่วยเหลือตนในตอนแรก

ขณะที่นายนัท สามี เปิดใจว่า ตอนที่ตนเองรู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์ ดีใจมาก เพราะตนเอง มีแฟนมาหลายคนแต่ไม่เคยท้อง จนเพื่อนๆ สงสัยว่าตนอาจเป็นหมัน

ตอนที่จับท้องของภรรยา ก็สัมผัสได้ว่าลูกดิ้นจริงๆ แต่หลังจากที่ภรรยา บอกว่ามีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์กันตอนที่ตั้งครรภ์ลูก 3-4 เดือน ตนก็ไม่กล้ามีความสัมพันธ์กับภรรยา และไม่กล้านอนใกล้ภรรยาเพราะตนเองนอนดิ้น และเกรงว่าภรรยาจะแท้งลูก

ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับสิ่งที่ภรรยาสร้างเรื่องขึ้นมา ส่วนประวัติฝากท้องของภรรยานั้นตนเองไม่เคยเห็น แต่รู้ว่าภรรยามีสมุดสีชมพู จึงยืนยันกับสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้ว่าภรรยามีสมุดฝากท้อง

ส่วนพัฒนาการของลูก ตนเองไม่เคยถามกับภรรยาเพราะเชื่อใจ เนื่องจากเห็นว่าภรรยาเคยมีลูกมาก่อนและมั่นใจว่าภรรยาจะดูแลลูกเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ได้รู้ว่าภรรยาสร้างเรื่องทั้งหมด และหลังจากนี้ หากคดีความต่างๆ จบลง ตนเองก็คงจะแยกทางกับภรรยาอย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวของตนก็รับไม่ได้เช่นกัน