โบนัสไม่เชื่อ! ผึ้งลวงโลกสำนึกผิด ลั่นถ้าสำนึกคงไม่ทำอีก

ผึ้งลวงโลก ร้องไห้ขอโทษ ยืนยันไม่ได้ตั้งใจหรือเจตนาไม่ดี ด้าน โบนัส ผู้เสียหาย ลั่นถ้าสำนึกจริงคงไม่ทำอีก

คดี ผึ้งลวงโลก สาวที่ใช้โปรไฟล์ของผู้หญิงหน้าตาดี ไปใช้หลอกลวงชาย จนหลงคารมณ์ ก่อนหลอกโอนเงิน พฤติกรรมของผึ้ง ดูเหมือนจะไม่เข็ดหลาบกับสิ่งที่เคยก่อ เพราะก่อนหน้านี้ ผึ้ง เคยถูกจับก่อนประกันตัวออกมา สุดท้ายก็กลับมาก่อเหตุซ้ำๆ แต่รอบนี้ เธอสวมรอยเป็น “โบนัส” สาวสวยโปรไฟล์ดี ก็อปรูปนำไปแอบอ้าง หลอกยืมเงินคนอื่น จน “โบนัส” ตัวจริง จับได้ และเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด!!

กระทั่ง ผึ้ง ถูกจับกุมตัวได้ เมื่อวานนี้…

เปิดหมายจับ ผึ้งลวง ปลอมโปรไฟล์ หลอกชาย สูญเงิน

ความคืบหน้าล่าสุด (2 ธ.ค. 64) น.ส.ขวัญฤดี หรือ “โบนัส” หญิงสาวที่ถูก ผึ้ง นำรูปไปแอบอ้าง เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หลังตำรวจสามารถจับกุม นางนันท์นลิล หรือ “ผึ้ง” ได้

โบนัส เปิดเผยว่า ตนถูกนำรูปโปรไฟล์ไปใช้ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. 63 เพราะมีผู้ชายคนหนึ่งติดต่อมาให้ข้อมูลว่า ถูกผู้หญิงที่ใช้รูปโปรไฟล์ของเธอหลอกพูดคุยเชิงชู้สาวและมีการขอยืมเงินไป แต่เมื่อขอเจอตัวจริงจะบ่ายเบี่ยงบ่อยครั้ง ซึ่งหลังจากทราบเรื่องได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว ขณะนั้นตำรวจบอกว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุให้แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า

จากนั้นในปี 64 ได้มีผู้เสียหายอีกคนนำรูปของตน พร้อมด้วยสลิปโอนเงินจำนวนหนึ่งโพสต์เตือนในกลุ่ม “ห้องแจ้งข่าวคนโกงและพวกโจร” ระบุว่า ถูกหลอกให้โอนเงินมัดจำสินค้าให้แต่ไม่ยอมโอนเงินคืน เมื่อตนทราบเรื่องจึงติดต่อไปยังผู้เสียหายคนนี้เพื่อชี้แจงว่ามีคนนำรูปของเธอไปแอบอ้าง และได้โพสต์เตือนลงเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง จากนั้นมีคนที่เคยเป็นเพื่อนกับมิจฉาชีพคนนี้ติดต่อมาให้ข้อมูลกับตนเอง ทำให้ตนรู้ว่ามิจฉาชีพคนนี้เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วเมื่อปี 61

ซึ่งตนกังวลว่าอาจมีผู้เสียหายคนอื่นที่ถูกหลอกอีกจึงเข้าแจ้งความที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ กระทั่งต่อมาตำรวจสามารถควบคุมตัว “ผึ้ง” ได้

“พฤติกรรมที่เขาทำคือนำรูปไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ทุกอิริยาบทของโบนัส ไปโพสต์หลอกเหยื่อ ในแอปพลิเคชันหาคู่หลากหลายแอปฯ รวมไปถึงการหลอกขายขนมในราคาแพง ซึ่งเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ที่เราโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว สิ่งที่เกิดขึ้นค่อนข้างส่งผลต่อสภาพจิตใจ และทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ต้องมีความระมัดระวังในใช้ชีวิตมากขึ้น ที่มาวันนี้ อยากมาเจอเขา จะถามว่าทำไมต้องเลือกรูปเราไปหลอกเหยื่อซ้ำๆ”

คุณโบนัสกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หรือ ผบก.สอท.1 เปิดเผยว่า สาเหตุที่การสืบสวนในคดีดังกล่าวมีความล่าช้า เนื่องจาก ต้องใช้เวลาสืบสวนหาพยานบุคคลที่ถูกผู้เสียหายหลอก มาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนตำรวจจะเข้าค้นหาหลักฐานต่างๆ อาทิ โทรศัพท์มือถือที่ผู้ต้องหาใช้หลอกผู้เสียหาย กระทั่ง เข้ากระบวนการขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา ได้ที่ย่านมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ยืนยัน ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และรวดเร็วที่สุด

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหา ยอมรับว่าก่อเหตุจริง และกระทำเพียงคนเดียว ไม่มีผู้อื่นรู้เห็น ที่ผ่านมา ผู้ต้องหา หลอกลวงผู้เสียหายจำนวน 5 ราย ได้เงินรวมราว 4 แสนบาท เงินที่ได้ก็ไปใช้จ่ายส่วนตัว และซื้อของใช้ในครอบครัว

เบื้องต้น แจ้งข้อหา ผู้ต้องหา 3 ข้อหา คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14(1) นำเข้าข้อมูลเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 16 และความผิดตาม ป.อาญา 341 และ 342 (1) ฐานฉ้อโกง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พล.ต.ต.รณชัย ได้นำคุณโบนัส ไปพบกับผึ้ง เพื่อพูดคุยรายละเอียดทางคดี โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าวด้านใน โดยภายหลังจากได้พูดคุยกับผึ้งแล้ว คุณโบนัส ได้ออกมาเปิดเผยว่า

“เหมือนเดจาวู เป็นคำคำเดิมที่เขาเคยพูด บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เจตนา เราน่ารัก ทำขนมเก่ง ชอบ เลยเอารูปเราไป ซึ่งเรารู้สึกว่ามันฟังไม่ขึ้น ถ้าชอบเรา แล้วมาทำกับเราแบบนี้เหรอ เราต้องเจอกับอะไรบ้าง ทุกวันนี้เราต้องมีคนติดตาม เพราะเรากลัวว่าเวลาไปไหนแล้วจะเจอคนที่เขาไปหลอก แล้วเขาอาจจะมีเจตนาไม่ดีกับเรา ตอนที่คุยกันผึ้งก็ร้องไห้ แต่เรารู้สึกว่าเขาไม่ได้สำนึกจริงๆ ถ้าเขาสำนึกจริงเขาคงไม่กลับมาทำแบบเดิมซ้ำๆ อีก”

คุณโบนัสกล่าว
คลิปอีจันแนะนำ
ผึ้งลวง EP.2 โลกของผึ้ง ใกล้ถึงตอนจบ!