สารพัดกลวิธีลวงคน มิจฉาชีพมามุขใหม่ ตุ๋นคนให้ลงทุน ขุดเหรียญคริปโต ก่อนเชิดเงินหายเข้ากลีบเมฆ!!!
วันนี้ (25 ก.พ. 66) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ออกมาเตือนประชาชน ให้ระวังมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุน ซื้อหรือเช่ากำลังขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency แบบ Cloud Mining
โดยการขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัล แบบ Cloud Mining คือการ ขุดเหรียญคริปโตฯ โดยใช้ Cloud แทนการลงทุนกับเครื่องขุดส่วนตัว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าของนักขุด ซึ่ง Cloud Mining ส่วนใหญ่มีระบบให้ผู้ใช้งานติดตามรายได้และการขุด ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน บช.สอท. ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายหลายราย ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนในโครงการชื่อ EVBOX ซึ่งประกอบธุรกิจ การขุดเหมืองแบบ Cloud Mining ซึ่งมิจฉาชีพจะอ้างว่า มีเหมืองอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน หากลงทุนสมาชิกจะได้ผลตอบแทน 3-4 เปอร์เซ็นต์ ของเงินลงทุนต่อวัน ในช่วงแรกผู้เสียหายก็ได้ผลตอบแทนจริง แต่เมื่อลงทุนเพิ่มขึ้น มิจฉาชีพกลุ่มนี้ก็จะไม่ให้ผลตอบแทนคืนมา โดยการอ้างเหตุผลต่างๆ จนทำให้เสียหายจำนวนมากด้านการกฎหมาย หากมีการกระทำลักษณะดังกล่าว ถือว่าเข้าข่ายความผิดฐาน ทุจริตหรือหลอกลวง นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ทาง บช.สอท. จึงฝากเตือน แนวทางป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพ ดังนี้
1. ประชาชนสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือ โดยการตรวจสอบว่า เว็บไซต์ดังกล่าวเปิดมานานแล้วหรือไม่ ซึ่งบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือมักจะมีการลงทะเบียนโดเมนแบบไม่ระบุตัวตน หรือตรวจสอบตัวตนได้ยาก โดยประชาชนสามารถตรวจสอบการจดทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ต่างๆ เช่น https://checkdomain.thaiware.com เป็นต้น
2. ระมัดระวังการชักชวนจากคนที่เพิ่งรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า หรือเป็นคนต่างชาติหน้าตาดี ที่เข้ามาตีสนิทแล้วชวนให้ลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ในแพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชันต่างประเทศส่วนใหญ่มักจะอ้างว่าลงทุนแล้วได้ผลกำไรสูง การันตีผลกำไรแน่นอน
3. มิจฉาชีพมักอ้างว่า รู้จักผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน โดยบุคคลที่กลุ่มมิจฉาชีพมักนำรูปและชื่อมาแอบอ้างนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงหรือมีความรู้ด้านการลงทุน พร้อมสร้างเว็บไซต์ปลอมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
4. การขุดในแบบ Cloud mining มีความเสี่ยงในการถูกหลอกลวงสูง ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนจะลงทุน โดยไปตรวจสอบสถานที่ของบริษัท
5. ถ้าจะให้ดี ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของรายได้บริษัทว่านำเงินจากไหนมาจ่ายให้ผู้ลงทุน
6. ควรตรวจสอบข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ว่าบริษัทมีการกล่าวถึงการหลอกลวงหรือไม่ มีความน่าเชื่อถือมากเพียงใด
7. ต้องดูว่า ผลตอบแทนที่ได้รับมีความสมเหตุสมผลหรือไม่ เช่น การันตีให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น
8. ไม่ควรโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของบุคคลธรรมดา เพราะเสี่ยงเป็นบัญชีของมิจฉาชีพหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า บัญชีม้า แต่บัญชีของนิติบุคคล หรือบริษัท ก็ไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอไป
9. ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนที่มีข้อเสนอที่ฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นไปได้ พึงระลึกไว้เสมอว่า ไม่มีสิ่งใดได้มาโดยง่าย โดยเฉพาะเรื่องเงิน และ การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง รู้เท่าทันก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!
