เร่งหาแนวทาง ช่วยคนไทยในเมียนมา-ดูไบ ถูกหลอกค้าประเวณีและคอลเซ็นเตอร์

มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ร่วมหารือกับ ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หาแนวทางช่วยคนไทย

เร่งหารือช่วยเหลือชาวไทยที่ถูกหลอกค้าประเวณีต่างแดน!

วันที่( 8พ.ย.66)ที่กระทรวงการต่างประเทศ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าร่วมประชุมหารือกับ ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

3 หัวข้อหลักๆ เรื่องที่หนึ่ง คือการช่วยเหลือสาวไทยที่ถูกหลอกไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศเมียนมา และถูกหลอกเป็นเหยื่อขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในเมืองเล้าก์ก่าย เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 

ซึ่งเหยื่อได้ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ ตั้งแต่ต้นปี 66 จำนวน 87 ราย แบ่งออกเป็นคอลเซ็นเตอร์ 62 ราย ถูกบังคับค้ามนุษย์ค้าประเวณี 25 ราย มูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้การช่วยเหลือ

และขณะนี้ทราบว่ารัฐบาลเมียนมาได้ให้การช่วยเหลือเหยื่อคนไทย 162 ราย มูลนิธิปวีณาฯ จึงขอทราบรายชื่อเหยื่อที่ได้รับการช่วยเหลือครั้งนี้เพื่อจะได้แจ้งญาติของเหยื่อที่ร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ให้ทราบว่าคนที่รักและลูกหลานจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ ซึ่งหากใครที่ยังไม่มีรายชื่อได้กลับในครั้งนี้ มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือต่อไป

ในส่วนที่ 2 คื่อเรื่องของสาวไทยอายุ 31 ปี ร้องทุกข์ทางเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณา ฯ แจ้งว่าตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองป๊อก ประเทศเมียนมา เพราะถูกหลอกไปที่เมืองป๊อก ประเทศเมียนมา ถูกบังคับให้ค้าประเวณี ถ่ายคลิปโป๊เปลือยมีเพศสัมพันธ์จนทนไม่ไหว เมื่อจะไม่ทำก็ถูกจับใส่กุญแจมือขังเดี่ยวอยู่ในห้องถูกซ้อมทำร้ายตบตี ไม่ให้กินข้าวกินน้ำ ต้องกินน้ำในห้องน้ำประทังชีวิต และถูกใช้ไม้แขวนที่เป็นสเตนเลสหนาๆ ฟาดตามตัว แขน และขาจนเดินไม่ได้

หญิงสาวทนถูกทำร้ายไม่ไหวจึงทำทีว่าจะยอมทำทุกอย่าง นายจ้างคนจีนจึงยอมปล่อยให้ออกมาอยู่ห้องรวม ก่อนที่จะมีแม่บ้านชาวเมียนมาเห็นสภาพแล้วสงสารจึงให้เข้าไปหลบซ่อนในถังขยะแล้วเข็นรถพาหนีออกมาจากตึกได้ จากนั้นก็มีคนช่วยพาหญิงสาวพาส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล หญิงสาวอยากกลับบ้านที่เมืองไทย กลัวนายจ้างคนจีนจะมาพาตัวกลับไปค้าประเวณีและทำร้าย ไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ จึงขอมูลนิธิปวีณาฯ ขอช่วยพากลับบ้านด้วย นางปวีณา ได้ประสาน นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ. ตร. และสถานทูตไทยในเมียนมา ช่วยเหลือหญิงสาวซึ่งคาดว่าจะได้ออกจากได้ออกจากโรงพยาบาลวันนี้ 

และอีกหนึ่งเรื่องคือทางด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พาสาวไทย 2 รายเหยื่อค้ามนุษย์ ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าหารือเรื่องการติดตามกรณีกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด และมีเคส 1 ราย ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองดูไบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดในประเทศไทยได้ส่วนหนึ่งแล้ว

ทั้งนี้ระหว่างการประชุมที่มี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล นายอำนาจ พละพลีวัลย์ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ เหยื่อสาวไทยอายุ 31 ปีชื่อน.ส.เอ (นามสมมุติ) ที่ถูกบังคับค้าประเวณีถูกซ้อมทำร้ายสาหัสแล้วมีคนช่วยเหลือหลบหนีออกมาส่งโรงพยาบาล ได้โทร LINE เข้ามา นางปวีณาจึงได้เปิดเสียงให้ผู้ร่วมประชุมได้รับฟัง น.ส.เอ แจ้งว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมามาพบที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ติดปัญหาค่าใช้จ่ายในการรักษา 60,000 กว่าบาท โดยดร.ปานปรีย์ ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการกงสุล ประสานสถานทูตไทยในเมียนมาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายและรับตัวออกจากรพ.ทันที เพื่อจะได้ส่งกลับมาทางท่าขี้เหล็ก ก่อนจะดำเนิการตามขั้นตอนเพื่อส่งกลับไทยต่อไป ซึ่งเมื่อรู้วันเวลาในการเดินทางกลับที่แน่นอนนางปวีณาจะเดินทางไปรับที่จ.เชียงราย

นางปวีณา ยังได้ฝากกับ ดร.ปานปรีย์ ว่า สถานทูตไทยในประเทศต่างๆ น่าจะมีศูนย์พักพิงให้กับคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างแดนเวลาที่เข้ามาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ เพราะเมื่อมีปัญหาต้องช่วยคนไทยให้ได้รับความปลอดภัยก่อน จากนั้นจึงจะมาเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ต่อไป 

ด้าน ดร.ปานปรีย์ กล่าวว่า หากมูลนิธิปวีณาฯ มีอะไรประสานกับตนได้โดยตรง ยินดีให้การช่วยเหลือเต็มที่ ส่วนในเรื่องที่พูดคุยวันนี้จะมอบหมายให้อธิบดีกรมการกงสุลตรวจสอบ ในส่วนของรายชื่อ 87 คน ที่ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ถูกหลอกไปค้ามนุษย์ที่ประเทศเมียนมา จะมีรายชื่อรายอยู่ในจำนวน 162 คนที่จะถูกส่งตัวกลับหรือไม่ หากคนไหนไม่มีรายชื่อก็จะได้ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป และในส่วนเคสหญิงไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีถูกซ้อมทำร้ายบาดเจ็บอยู่ที่รพ.เมืองป๊อก เมียนมา ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการกงสุลช่วยเหลือแล้ว ดร.ปานปรีย์ กล่าวอีกว่าจากนี้จะมีการมอบนโยบายให้กับสถานทูตไทยในทุกประเทศ หากพบคนไทยตกทุกข์ได้ยากหรือมีปัญหาต้องช่วยทุกคน ส่วนจะเป็นเหยื่อค้ามนุษย์หรือไม่ก็ต้องช่วยกลับมาเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อต่อไป

นางปวีณา กล่าวทิ้งท้าย ขอบคุณ ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอย่างยิ่ง ที่ผ่านมามูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานกับนายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล และกระทรวงการต่างประเทศในการช่วยเหลือคนไทยมาโดยตลอดได้รับความช่วยเหลือด้วยดีเสมอมา

อยากฝากเตือนคนไทยทุกคนพี่คิดจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ อย่าหลงเชื่อโฆษณาในโซเชียลหรือคนที่ชักชวนว่าเดินทางไปแล้วจะรายได้ดี ซึ่งงานสบายรายได้สูงนั้นไม่มีจริง เมื่อตกเป็นเหยื่อไปแล้วส่วนใหญ่จะยากในช่วยเหลือ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน หรือมูลนิธิปวีณาฯ ก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ