สมัยนี้ มิจฉาชีพ ผุดขึ้นยิ่งกว่าดอกเห็ด แถมยังสรรหาวิธีต่างๆ นานา มาหลอกเหยื่อ และยิ่งในยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มิจฉาชีพ มักจะแฝงตัวมาในรูปแบบของการหลอกออนไลน์ รวมถึงแอปฯ กู้เงิน ต่างๆ โดยใช้ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นกลลวง
วันนี้ (20 ส.ค. 65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นอกจากสถาบันการเงินแล้ว ปัจจุบันประชาชนนิยม กู้เงิน จากช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะการกู้เงินด่วนแบบออนไลน์ตามแอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก ไลน์ รวมถึง แอปพลิเคชันกู้เงิน ที่สามารถปล่อยเงินกู้ง่ายเพราะมีเงื่อนไขน้อย โอนเงินให้ได้ในทันทีซึ่งถึงจะมีรูปแบบการได้เงินที่สะดวกสบาย
แต่ในทางกลับกัน แอปฯ เหล่านี้ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เหล่ามิจฉาชีพสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกให้เป็นหนี้ และล้วงข้อมูลเพื่อไปใช้ในทางผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้มีการโฆษณาชวนเชื่ออยู่มาก
ทางธนาคารแห่งประเทศไทย โดยศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) จึงได้ออกคำแนะนำ “กู้ออนไลน์ ต้องรู้ทันโจร” เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนยื่นกู้ออนไลน์ จะได้ไม่เสี่ยงตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ หรือต้องแบกภาระดอกเบี้ยสูงเกินจริง หรือการทวงถามหนี้โหด โดยก่อนจะตัดสินใจกู้ ขอให้พิจารณา ดังนี้
1.แยกแยะแอปฯ เงินกู้ หากเป็นแอปฯ กู้เงินถูกกฎหมาย จะให้เงินกู้เต็มจำนวนและคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินที่กำหนด หากเป็นแอปเงินกู้นอกระบบ ต้องระวัง เพราะได้เงินไม่เต็มจำนวน แต่ต้องจ่ายคืนเต็ม พร้อมดอกเบี้ยและค่าปรับที่สูง มีระยะเวลาชำระคืนสั้น ทวงหนี้โหดแบบข่มขู่คุกคาม ส่วนแอปเงินกู้ปลอมนั้น จะหลอกให้เราโอนเงินไปก่อน อ้างเป็นค่าใช้จ่าย และยังหลอกให้โอนเรื่อยๆ แต่สุดท้ายไม่ได้ให้กู้จริง
2.ไม่แน่ใจอย่างเพิ่งคลิก ให้ตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการก่อนและโทรติดต่อสอบถาม สามารถตรวจสอบแอปเงินกู้ ในเว็บไซต์ของแบงก์ชาติ
3.เลือกดาวน์โหลดแอปฯ ที่ปลอดภัย ป้องกันการแฝงไวรัสหรือมัลแวร์ที่จะมาล้วงข้อมูลส่วนตัว
4.อย่าลืมอ่านเงื่อนไขก่อนกู้ เช่น อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และวิธีคืนเงินกู้
นางสาวรัชดา ย้ำด้วยว่า ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ดีทุกครั้งก่อนตัดสินใจกู้เงิน เพราะอาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้โดยไม่รู้ตัวแนะประชาชนเช็กความน่าเชื่อถือของแหล่งกู้เงินเจากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนต้องเป็นหนี้ท่วม และเสี่ยงกับการโดนล้วงข้อมูล