เกาะติด คดีชมพู่ ลุงพล - ป้าแต๋น ผู้ต้องหาในคดี แถลงเปิดใจ หลังศาลชั้นต้น เลื่อนนัดตัดสินคดี
ทีมทนาย ลุงพล เปิดเผยว่า วันนัดฟังคำพิพากษา หลังจากสืบพยานฝ่ายโจทก์-จำเลยเสร็จเเล้ว รวมทั้งกระบวนพิจารณาต่างๆ เเถลงปิดคดีก็จะเป็นขั้นตอนของศาล
ในส่วนของจำเลย เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมตัว เตรียมฟังคำตัดสินของศาล ถ้าออกมาเป็นลบ ก็หาหลักทรัพย์ ที่จะขอปล่อยตัวชั่วคราว ระหว่างอุทธรณ์
ผมเป็นนักกฎหมายมา 35 ปี กรณีนัดฟังคำพิพากษา ผมยงไม่เคยเจอลักษณะนี้ ศาลนัดพิจารณา คือ วันพรุ่งนี้ จะเลื่อนอ่านเพราะเหตุผลอะไร เพราะฉะนั้น เป็นความลับขั้นสุดยอด ของกระบวนการยุติธรรม ข่าวว่าเลื่อนไม่น่าจะมีมูลอะไรขึ้นมาได้
ในฐานะทนายความของลุงพล ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ในการกระทำผิดไหม?
ลุงพล ยืนยันมาตลอดว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้อนี้ลุงพลหลอกตัวเองหรือไม่ ? ลุงพลก็สมัครใจ ตามที่เจ้าพนักงานร้องขอไปพบนักจิตวิทยาคลีนิค สถาบันนราธิวาสราชนครรินทร์ ตามหลักวิชาการหรือเครื่องจับเท็จ พิสูจน์ไปด้วยความสมัครไป
ผลออกมาเป็นภาวะปกติเหมือนคนทั่วไป หมายความลุงพลไม่มีพิรุธหรือไม่มีอะไรที่จะหลอกตัวเอง เเสดงว่าลุงพลมีจิตใจที่ดีงามเช่นคนปกติทั่วไป ไม่มีจิตวิปริต หรือจิตฟั่นเฟือน ถึงขนาดจะต้องกระทำชั่วช้าเลวทราม เอาน้องขึ้นไปภูเเล้วปล่อยให้อดข้าวอดน้ำตายต่อหน้าต่อตา
เราพยายามหักล้าง ลุงพล ป้าเเต๋น ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเเม้เเต่น้อย เราหักล้างหลายๆด้าน หลายๆจุด จุดที่จะเป็นนิติมากที่สุด ถ้าลุงพลอุ้มน้องไปที่เกิดเหตุ ต้องพบดีเอ็นเอลุงพลในเสื้อผ้าที่น้องใส่ ถ้าบอกว่าลุงพลกับป้าแต๋นไปเคลื่อนย้ายศพ ในร่างของน้องต้องมีดีเอ็นเอ
ในเส้นผมที่พบข้างศพเเละรถลุงพล เขาใช้ขบวนการเเสงซินโครตรอน เหมือนเป็นเส้นที่วาง ถูกตัดด้วยคมมีดด้านเดียว เราหักล้างตรงนี้ไปว่า คมมีดด้านเดียว เอาไปเป็นของกลางในคดี เเล้วการพบในรถของลุงพล เป็นการค้นพบ ซึ่งเราเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ยังมีข้อกัง หาโดยไม่มีหมายค้น เมื่อพบเเล้วไม่เเจ้งผู้สื่อข่าว จำเลย ผู้ใหญ่บ้าน ว่าเจอสิ่งนี้นะ เเล้วบันทึกไปตรงกันข้าม ลุงพลมารู้ต่อเมื่อเป็นคดีเเล้ว
เเสดงส่าการทำงานของพนักงานสอบสวน ตรวจรถ ไม่ถูกตั้องตามกฎหมาย คดีนี้ผมพูดตั้งเเต่วันเเรก เราสู้ 2 ประเด็น คือ
1.จำเลย ไม่ได้ทำเอง
2.การสอบสวนไม่ชอบ
เราไม่ได้หมายความว่า ตำรวจจะปรักปรำหรืออะไร เราพยายามพิสูจน์ให้เห็นเราบริสุทธิ์จริงๆ เราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการสูญเสีย นี่คือการหักล้างให้เห็นว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้อง เราไม่ได้กระทำผิดเลย
ตอนนี้มันมีประเด็น คือ พฤติกรรมเด็ก พฤติกรรมสุนัข รวมถึง นิติเวช ผลที่ปรากฎบนน้องชมพู่ มีความเป็นไปได้เช่นกันว่า น้องชมพู่สนิทสนมกับหมาที่ตัวเองเคยให้อาหาร เป็นได้หรือไม่ว่า น้องวิ่งเล่นกับหมา เผลอไประยะหนึ่ง อาจจะไปออกนอกหมู่บ้าน เเต่ไปในจุดหนึ่งที่ หมาทิ้งน้องไว้ น้องก็ผจญภัยตามน้อง เเล้วภูเหล็กไฟไม่มีเเหล่งน้ำ เลยเสียชีวิตเนื่องจากขาดน้ำ
เป็นได้ไหมว่าน้องไปเอง โดยไม่มีผู้ใดกระทำนอกจากนั้นเเล้ว เราก็นำเสนอว่า คนที่จะฆ่าเเกงมันต้องมีมูลเหตุจูงใจ ก็คือการขัดผลประโยชน์ หรือการเเย่งที่ทำมาหากินกัน มูลเหตุต่อไป คือ เเย่งบารมีกัน เเล้วก็เรื่องกามอารมณ์ เราก็พบว่า นอกจากจะไม่มีมูลเหตุทืั้ง 3 เเล้ว ตรงกันข้ามโจทย์ร่วมทั้งสอง จำเลยทั้งสองเป็นพี่น้องกัน
ลุงพล เปิดเผยว่า ในระยะเวลาที่ตกเป็นผู้ต้องหา รอวันที่ 31 ต.ค. 66 จะทราบไปพร้อมกันว่าท่านจะมีคำพิพากษาเเบบไหน บวกหรือลบ ลุงพล ป้าเเต๋นน้อมรับในตำตัดสินนั้น ต้องสู้ให้ถึงที่สุด จะอุทธรณ์ต่อไป
มาจนถึงวันนี้หลังจากที่เราได้สืบพยาน ยืนยันบริสุทธ์ 1 ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้เป็นผู้กระทำกับน้อง วันที่เกิดเหตุ ถ้าเป็นห้วงเวลาที่หาย ลุงป้าอยู่กับเเม่น้องชมพู่ ห่างจากหมู่บ้านไป 2 กม. คนที่จะตอบได้ดีที่สุด คือ พี่สาวของน้อง ที่อยู่กับน้องตลอดเวลา
ซึ่งลุงป้าด้วยความที่เป็นชาวบ้าน อยากเห็นความยุติธรรม เราก็ช่วยทุกวถีทาง อย่างที่ลุงไปออกรายการดังช่อง 3 เเสดงให้เห็นว่าลุงกับป้ามีความห่วงใยทางครอบครัว
ครอบครัวเริ่มเจอเรื่องมา ตอนเเรกตั้งตัวไม่ได้ วันต่อมาก็มีกำลังใจ มีคนให้คำเเนะนำ ข้อคิดหลายๆอย่าง มันก็อยู่ได้ทุกวันนี้เเหละ รอวันที่ 31 ต.ค. มาตลอด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 14 พ.ค. 63 เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลาสั้นๆ ลุงได้พบข้อมูลจากพ่อเเม่น้องชมพู่ หลังจากที่ค้นหา ช่วงวันที่ 11 , 12 , 13 และวันที่ 14 ก็ได้ข้อมูลบางอย่าง จากพ่อเเม่น้องชมพู่ว่าสงสัยใครในหมู่บ้าน
ชมพู่ก็เป็นหลานคนที่ 5 ของตระกูล ถ้าฝากถึงน้องได้ จาก 3 ขวบก็เป็น 6 ขวบ เราก็ดูเเลซึ่งกันเเละกัน ครอบของลุงกับป้า เเละพ่อเเม่น้องชมพู่ เรามีความสนิมสนมกัน ช่วยเหลือกันตลอด ถ้าเกิดว่าน้องโตขนาดนี้ ลุงป้าก็จะดูเเลเขาต่อไป
ลุงป้าก็จะทำให้ดีที่สุด ในการติดตามหาผู้ที่ทำผิด ถ้ามีผู้กระทำผิด อยากให้น้องได้รับความยุติธรรม
ทางด้าน ป้าแต๋น เปิดเผยสั้นๆ ว่า รู้อยู่เเล้วว่าป้าไม่ได้ทำ ชมพู่ดลจิตดลใจ ให้คนที่ใส่ร้ายป้ายสีกับป้า ให้มันฉิบหายวายวอดไปเลย ถ้าน้องได้ยินป้าขอเเค่นี้เเหละ
บทสรุปคดีนี้ จะเป็นยังไง รอติดตามต่อไป
