แอม เครียด-ความดันสูง ส่งตัวไป รพ. พบประวัติเคยรักษาอาการทางจิต

วันนี้ (27 เม.ย.66) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีของ นางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ถูกกล่าวว่า ฆาตกรรมวางยาเหยื่อ หลังถูกควบคุมตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลางเมื่อวานนี้ 

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้รับรายงานจาก น.ส.โศรยา ฤทธิ์อร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ว่า แอม มีอาการเครียด-วิตกกังวล ทำให้ความดันสูง 150-200 มิลลิเมตรปรอท พยาบาลจึงต้องส่งตัวไปที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในช่วงเวลา 22.00 น. ก่อนที่แพทย์จะตรวจร่างกายและให้การรักษาเบื้องต้น ก่อนส่งตัวกลับ โดยไม่ได้ให้แอดมิท

ส่วนแอมได้ตั้งครรภ์ ซึ่งอายุครรภ์เท่าที่ทราบ คือ 4 เดือน

แพทย์ได้ตรวจชีพจรเด็ก พบว่า ชีพจรเด็กปกติ อาการความดันสูงหรือความเครียด ไม่ได้กระทบต่อเด็กในท้อง โดยขณะนี้ แอม ได้อยู่ที่ห้องกักโรคของทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งมีนักจิตวิทยาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีอาการเครียด

และทางทัณฑสถานหญิงกลางมีมาตรการดูแลผู้ต้องขังรายนี้ ตามระเบียบเหมือนผู้ต้องขังรายอื่น โดยเมื่อเข้าสู่ทัณฑสถานหญิงกลางแล้วจะต้องเข้าสู่ห้องกักโรคเป็นเวลา 5 วัน จากนั้นจะมีการตรวจ ATK เพื่อย้ำว่า ติดโควิดหรือไม่ ตามมาตราของกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะย้ายไปสู่ห้องบับเบิ้ลโซนอีก 5 วัน ซึ่งถ้าหากไม่พบเชื้อโควิดแล้ว ก็จะสามารถย้ายไปสู่แดนต่างๆได้ตามปกติ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบประวัติ พบว่า แอม เคยเข้ารับการรักษาโรคทางจิตเวช ที่สถาบันกับยาณ์ราชนครินทร์ เมื่อ 5 ปีก่อน แต่ขาดการรักษาอย่างต่อเนื่องและไม่รับประทานยามา 2 ปี ส่วนรายละเอียดเรื่องการรักษาในขณะนั้น ไม่แน่ชัด ต้องถามทางโรงพยาบาล และยังไม่ได้ซักถามเจ้าตัวเรื่องอาการป่วยทางจิตเวชโดยละเอียด เนื่องจากยังอยู่ในช่วงกักตัว

โดยในวันนี้ ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จะส่งจิตแพทย์มาตรวจดูอาการว่าป่วยอยู่ในขั้นไหน เพื่อทำการรักษาต่อไป และทัณฑสถานหญิงกลางมีการดูแลผู้ต้องขังที่ป่วยเป็นจิตเวชอยู่แล้ว ในกรณีนี้ก็จะส่งจิตแพทย์ให้เข้ามาพูดคุยบ่อยครั้งในช่วงแรกก่อน รวมถึงระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ก็จะจ่ายยาให้รับประทานตามขั้นตอนของแพทย์จิตเวชด้วย

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกด้วยว่า  แอม ไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่เหมือนนักโทษและผู้ต้องขังรายอื่นๆทั่วไป

var d=document,w=”https://tally.so/widgets/embed.js”,v=function(){“undefined”!=typeof Tally?Tally.loadEmbeds():d.querySelectorAll(“iframe[data-tally-src]:not([src])”).forEach((function(e){e.src=e.dataset.tallySrc}))};if(“undefined”!=typeof Tally)v();else if(d.querySelector(‘script[src=”‘+w+'”]’)==null){var s=d.createElement(“script”);s.src=w,s.onload=v,s.onerror=v,d.body.appendChild(s);}