
รวบ 5 ผู้ต้องหา ฆ่าโหด 4 ศพ ยัดรถถ่วงน้ำ จ.นราธิวาส
วันนี้ (13 มี.ค.66) พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เเละเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อัพเดทความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีโหด ฆ่ายัดรถทิ้งบึงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ว่าได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย
1.นายมาหะมะ หรือ วัง
2.นายอัสรี หรือ ยี
3.นายอีชัน หรือ ปาดัง
4.นายเมธาวัตร หรือ อาท
5.นายณัฐวุฒิ หรือ มิง
ซึ่งแยกเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต 3 คน คือ นายมาหะมะ นายอัสรี และนายอีซัน ส่วนผู้ที่นำศพไปทิ้งอำพราง จำนวน 2 คน คือ นายเมธาวัตร และนายณัฐวุฒิ หลังก่อเหตุแล้วเสร็จ นายเมธาวัตร นายณัฐวุฒิ และพวกอีก 2 คนได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิต 3 คนใส่ท้ายรถยนต์เก๋ง ขับออกจากบ้านเกิดเหตุไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนปาล์ม บ้านก่อซอ ต.แว้ง อ.แว้ง นำไปทิ้งในบึงจือแร ต.แม่ดง
เสร็จเเล้ว นายเมธาวัตร ได้กลับมาที่บ้านหลังดังกล่าว ใช้รถยนต์กระบะของตนเองร่วมกับนายณัฐวุฒิช่วยกันนำร่างของผู้เสียชีวิตอีกรายขึ้นรถยนต์กระบะ แล้วขับออกไปทิ้งที่แม่น้ำโก-ลก
ซึ่งตลอดทางจะมีคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ 2 คน ขับรถ จยย.และมีนายอัสรี นั่งซ้อนท้ายไปตลอดทาง
โดย พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพและประจักษ์พยานที่นำไปตรวจสอบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ มีผลตรวจออกมาชัดเจนถึงพฤติกรรมของคนร้ายแต่ละคน ที่ตรวจสอบพบในบ้านจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีทั้งคราบเลือด ปลอกกระสุนปืน รวมทั้งคราบลายนิ้วมือที่ติดไว้ตามบริเวณต่างๆ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกให้การซัดทอด เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
ในส่วนของมูลเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มาจากปัญหาส่วนตัว ที่กลุ่มผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน มีความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวกับ ลูกชายของนายมาหะมะ หรือ วัง 1 ใน 3 มือปืน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านไม่มีเลขที่ที่ตั้งอยู่ในสวนปาล์ม หลังจากที่นายมาหะมะ ทราบเรื่อง จึงได้โทรศัพท์พูดคุยกับ 4 ผู้เสียชีวิต และ 4 คนได้ร่วมเดินทางออกมาจาก อ.สุไหงโก-ลก เพื่อไปพบกับนายมาหะมะ ที่บ้านจุดเกิดเหตุ มีการพูดคุยกันแต่ตกลงกันไม่ได้ นายมาหะมะและพวก จึงใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน คาบ้านพัก ก่อนช่วยกันอำพรางศพไปทิ้งที่บริเวณดังกล่าวทั้ง 2 จุด จนเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนสอบสวนและจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุได้ 5 คน ส่วนที่เหลืออีก 2 คน จะมีการติดตามจับกุมมาลงโทษต่อไป