รักมรณะ กลางงานวิวาห์ เจ้าบ่าว ลั่นไก ดับ 5 ชีวิต ตร.คาด ปมหึงหวง

เปิดไทม์ไลน์สุดสลด เจ้าบ่าว ลั่นไก ดับครอบครัวเจ้าสาว 5 ชีวิต รวมเจ้าสาวของตัวเอง ตร.คาด ปม หึงหวง

รักมรณะ กลางงานวิวาห์ตัวเอง เจ้าบ่าวลั่นไก ดับ 5 ชีวิต เพียงเพราะหึงหวง!!!

22.45 น. วันที่ 25 พ.ย. 66 ในขณะที่งานแต่งงานกำลังดำเนินไป กลับมีเสียงปืนมรณะดังขึ้น ผู้คนต่างล้มลง จมกองเลือด ด้วยน้ำมือเจ้าบ่าวในงานเอง

วันเกิดเหตุเป็นวันแต่งงานของ นายจาตุรงค์ หรือแจ็ค สุขสุข อายุ 29 ปี กับ น.ส.กาญจนา หรือปู อายุ 44 ปี ที่ชุมชนป่าขนุนพัฒนา หมู่ 1 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

ช่วงเช้าพิธีสงฆ์และรดน้ำสังข์ผ่านไปอย่างเป็นปกติ ตกเย็นเป็นงานเลี้ยง ยิ่งดึกยิ่งครึกครื้น แต่ไม่ใช่กับคู่บ่าว-สาว เพราะทั้งสองทะเลาะกันรุนแรง จนถึงจุดแตกหัก เจ้าบ่าวกวาดข้าวของลงจากโต๊ะ เดินไปหยิบปืน 9 มม. ในรถออกมากราดยิงคนในงาน ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าวว่า กระสุนนัดแรกปลิดชีพ แม่ยายและน้องเจ้าสาว จากนั้นเป็นตัวเจ้าสาวเอง แขกที่มาช่วยงาน 2 คนเจ็บสาหัส เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 คน หลังเจ้าบ่าวก่อเหตุแล้ว ก็ปลิดชีพตัวเองกลางงาน รวมทั้งหมดวิวาห์มรณะนี้ คร่า 5 ชีวิต

วิวาห์เลือด! เจ้าบ่าวเมา ลั่นไกในงาน ตาย 5 เจ็บ 1

23.00 น. หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ ก็ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที นำโดย พ.ต.ต.มติชน วงษ์เบ้ากูล สว. (สอบสวน) สภ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ตังอำนวย ผกก.สภ.วังน้ำเขียว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 3 แพทย์เวร รพ.วังน้ำเขียว เจ้าหน้าที่กู้ภัย ฮุก31 จุดวังน้ำเขียว พบว่า บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ได้กางเต็นท์ไว้สำหรับจัดงานแต่งงาน ภายในเต็นท์พบข้าวของกระจายเกลื่อนพื้น ชาวบ้านที่มาร่วมงานต่างอยู่ในอาการตื่นตกใจ พบร่างผู้เสียชีวิต 4 ศพ ศพแรกชื่อนายจาตุรงค์ สวมเสื้อยืดขาวคลุมทับด้วยเสื้อกันหนาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบ นอนหงายจมเลือด มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด ศพต่อมา น.ส.กาญจนา หรือปู นอนคว่ำหน้าจมเลือด สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสีดำ ถูกยิงที่ร่างกายหลายนัด ศพที่ 3 นางกิ่งทอง อายุ 60 ปี และศพที่ 4 น.ส.กรนิดา อายุ 37 ปี แม่และน้องสาวของ น.ส.กาญจนา ถูกยิงตามลำตัว มีผู้ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย คือ นายธง อายุ 50 ปี และนายบำรุง อายุ 28 ปี เพื่อนบ้านที่มาร่วมงานแต่ง ถูกนำส่ง รพ.วังน้ำเขียว ต่อมาทราบว่า นายธง เสียชีวิต เพราะกระสุนถูกอวัยวะสำคัญ

ในที่เกิดเหตุพบปืนพก 9 มม. ตกอยู่ข้างตัวนายจาตุรงค์ ในแมกกาซีนปืนเหลือกระสุนอยู่ 2 นัด และมีปลอกกระสุนปืนตกกระจายอยู่ในบ้าน 11 ปลอก และหัวกระสุนอีก 3 หัว ปืนที่ใช้ก่อเหตุสลดครั้งนี้ เป็นปืนมีทะเบียน ขออนุญาตและซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย เมื่อราวๆ 6 เดือนก่อน ซึ่งนายจาตุรงค์เป็นอดีตทหาร สังกัดกองร้อยลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกที่ 1 กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ เคยถูกขบวนรถไฟทับขาขวาขาด ต้องกลายเป็นผู้พิการ ต่อมาได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำคนพิการทีมชาติไทย ประเภทฟรีสไตล์ มีความสามารถขนาดที่ว่า เคยคว้าเหรียญเงิน การแข่งขันว่ายน้ำอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 จากประเทศอินโดนีเซีย และตอนนี้กำลังเตรียมลงแข่งขันมหกรรมกีฬาคนพิการทางด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว ชิงแชมป์โลก 2023 ที่จะจัดขึ้นช่วงวันที่ 1-9 ธ.ค.นี้ด้วย

ส่วน น.ส.กาญจนา เจ้าสาว หย่าร้างกับสามีเก่ามานานแล้ว มีลูกติดเป็นผู้หญิง 2 คน เรียนชั้นมัธยมใน จ.นครราชสีมา นางกาญจนาเป็นช่างเสริมสวย รู้จักและคบหากับนายจาตุรงค์ มานาน 3 ปี อยู่กินกันมาตลอด จนกระทั่งได้ฤกษ์แต่งงานในวันที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า เพราะว่าเจ้าสาวเป็นคนหน้าตาดีและพูดจาไพเราะ และตัวเจ้าบ่าวเองมักจะชอบคิดมากว่า ตัวเองเป็นคนพิการ มีปมด้อย ต้องใช้ขาเทียม อีกทั้งอายุก็น้อยกว่าถึง 15 ปี ก่อนหน้านี้นายแจ๊คมักจะคิดว่า มีชายอื่นมาชอบพอกับ น.ส.กาญจนา ช่วงก่อนเกิดเหตุ นายแจ๊คดื่มสุราจนเมามาย และมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง จู่ๆก็กวาดข้าวของ ล้มโต๊ะอาหาร ก่อนเดินไปหยิบปืนที่วางไว้ในรถยนต์ มากระหน่ำยิงแบบคนขาดสติ

ต่อมาเวลา 13.00 น. ของวันที่ 26 พ.ย. 66 ญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางเข้ามาติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิต ที่ห้องเก็บศพ รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา แต่ยังไม่มีญาติเจ้าบ่าวมาติดต่อรับศพ เนื่องจากเจ้าบ่าวเป็นคนในพื้นที่ ต.กระชอน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ญาติกำลังนำเอกสารเข้ามาดำเนินการ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าศพทั้ง 5 ราย อยู่ระหว่างผ่าพิสูจน์วิถีกระสุน คาดจะแล้วเสร็จในเวลา 17.00 น.วันเดียวกันนี้

บรรยากาศการรับศพเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติของเจ้าสาวมีน้องชายคนเล็กเดินทางมารับศพด้วย พร้อมระบุว่า ครอบครัวเจ้าสาวมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน พ่อเสียชีวิตไปแล้ว เหลือเพียงแม่ที่มาถูกยิงตายในครั้งนี้พร้อมลูกสาวทั้ง 2 คน เหลือเพียงน้องสาวคนที่ 3 และน้องชายคนสุดท้อง ที่รอดชีวิตจากคมกระสุนเพียงสองคนเท่านั้น ญาติจะนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหลวงราชบำรุง หรือวัด กม.79 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มีรถฉุกเฉินของกู้ภัย ฮุก31 คอยให้บริการส่งศพฟรี

ในทางคดีนั้น พ.ต.ต.มติชน วงษ์เบ้ากูล พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง คาดปมเหตุหึงหวงประกอบกับมึนเมาสุรา คดีนี้ผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตไปแล้ว พนักงานสอบสวนจะทำสำนวนคดีสั่งไม่ฟ้อง ถือว่าคดียุติลง

ต่อมาเวลา 19.00 น. นายสมภพ มุกดาสนิท นายอำเภอวังน้ำเขียว เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ และสวดอภิธรรมศพในคืนแรก โดยขณะนี้ญาติผู้เสียชีวิตยังไม่ได้หารือว่าจะตั้งศพสวดอภิธรรมกี่คืน เนื่องจากวัดแห่งนี้มีเมรุเพียงเมรุเดียว แต่ศพที่จะฌาปนกิจมีถึง 3 ศพ จึงไม่สามารถฌาปนกิจพร้อมกันได้ ทางวัดจึงต้องสร้างเมรุลอยเพิ่มอีก 2 เมรุ เพื่อที่จะประกอบพิธีฌาปนกิจพร้อมกัน โดยเบื้องต้นคาดว่าน่าจะตั้งศพสวดอภิธรรมไม่น้อยกว่า 3 คืน เพื่อรอให้เมรุลอยสร้างเสร็จก่อน ส่วนศพของนายจตุรงค์ เจ้าบ่าว ทางญาติได้รับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักในพื้นที่บ้านโนนท่อ หมู่ 9 ตำบลกระชอน อ.พิมาย ขณะที่อาการของชาวบ้านที่บาดเจ็บสาหัสอีก 1 รายนั้น ล่าสุดแพทย์ได้ผ่าตัดเอาหัวกระสุนออก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุนั้น ก็มีเรื่องประหลาดคล้ายจะเป็นลางบอกเหตุเกิดขึ้น โดย คุณตาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติของเจ้าบ่าว เปิดเผยว่า ช่วงก่อนที่เจ้าบ่าวจะยกขบวนขันหมาก ทางญาติๆได้จุดธูปที่ศาลพระภูมิหน้าบ้าน จำนวน 9 ดอก แต่พบว่า มีธูป 1 ดอกที่ไม่ไหม้ รวมทั้งตลอดทั้งวันเจ้าบ่าวมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีความสุข ซึ่งตามปกติแล้วคนแต่งงานกันน่าจะมีความสุข จนกระทั่งมาเกิดเหตุร้ายขึ้น

เรื่องราวความรักมรณะครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เหตุการณ์รักมรณะแบบนี้เกิดขึ้น และครั้งนี้ มีสุราเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อีจัน ขอให้เหตุสลดครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆเสียที ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนด้วยนะครับ

คลิปอีจัน แนะนำ
เปิดไทม์ไลน์ เจ้าบ่าวคลั่ง ยิงเจ้าสาวและญาติ ดับ 4 ศพ