บิ๊กโจ๊ก เผยเตรียมสรุปสำนวน 15 คดี แอม ไซยาไนด์ โทษสูงสุดประหารชีวิต

8 มิ.ย. 66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าพบ นายปรีชา สุขสงวน อธิบดีสำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุดและพนักงานอัยการในคณะทำงาน ในคดี แอมไซยาไนด์

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ในวันนี้เป็นการหารือเพื่อวางแผนในการทำสำนวนคดี แอมไซยาไนด์ ให้มีความรัดกุมรอบคอบ และกระชับในเรื่องของระยะเวลาขั้นตอนในการพิจารณาสำนวนเพื่อให้สามารถสั่งคดีได้อย่างรวดเร็ว เพราะทุกครั้งพนักงานสอบสวนกว่าจะมีการส่งสำนวนคดีให้กับพนักงานอาการก็กินระยะเวลาฝากขังไปจนถึงผัดที่ 5 หรือผัดที่ 6 ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงพนักงานอัยการที่มีเวลาให้ตรวจสอบสำนวนน้อยเกินไป

จากการพูดคุยในวันนี้ทำให้ทราบว่า ทางอธิบดีมีการสั่งตั้งคณะทำงานของพนักงานอัยการเพื่อใช้ในการทำงานในสำนวนคดีนี้ขึ้นเป็นพิเศษหนึ่งชุด โดยพนักงานอัยการชุดนี้จะทำหน้าที่ในการพิจารณาสำนวนคดีนี้โดยเฉพาะ เพื่อทำให้ระยะเวลาในการตรวจสำนวนของพนักงานอัยการมีความรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น

และในส่วนของพนักงานสอบสวน คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีทั้งหมดทั้ง 15 คดีที่แบ่งเป็นคดีฆาตกรรม 14 คดีและแบ่งเป็นคดีพยายามฆ่า 1 คดี จะสามารถส่งพนักงานอัยการได้ภายในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ยังรวมถึง การดำเนินการทางคดีกับคนสนิททั้งสองคนคืออดีตสามีที่เป็นตำแหน่งรองผู้กำกับการและทนายความคนสนิทร่วมด้วย

หลังจากนี้ เมื่อมีการส่งสำนวนคดีของแอมให้กับพนักงานอัยการแล้ว ทางตำรวจก็มีการขยายผลดำเนินการในเรื่องของเว็บพนันออนไลน์ ที่แอมมีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะผู้เล่น รวมถึงตัวยาไซยาไนด์ ที่เบื้องต้นต้องมีการจัดการกับทางโรงงานและเจ้าที่ของกรมโรงงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการละเลยจนทำให้เกิดการเสียหายเกิดขึ้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุยืนยันอีกว่า ในส่วนของตัวแอม โทษสูงสุดที่ต้องได้รับในครั้งนี้คือ ประหารชีวิต เนื่องจากมีการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ตั้งข้อหาจำนวนมาก ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อหาที่ถูกแจ้งจะมีมากถึง 80 ข้อ ตามที่สื่อมวลชนมีการนำเสนอหรือไม่ เพราะตนเองจำไม่ได้ต้องกลับไปตรวจสอบก่อนแต่ในส่วนของโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต เว้นแต่ว่าตัวผู้ต้องหาจากไปให้การรับสารภาพหรือชั้นการไต่สวนซึ่งโทษก็จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลอีกครั้ง

ในส่วนของตัวทนายความ ขณะนี้ยืนยันยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อ ซึ่งการดำเนินการหลังจากที่มีการส่งสำนวน ให้กับพนักงานอัยการแล้วทางตำรวจจะมีทำหนังสือไปถึงสภาทนายความ เพื่อให้พิจารณามรรยาททนายความอีกครั้ง

เบื้องต้นยืนยันว่ายังไม่ครบความเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อซึ่งข้อหาที่ดำเนินการยังคงอยู่ในเรื่องของการปลอมแปลงเอกสารและร่วมกันทำลายหลักฐานในคดี ซึ่งการดำเนินการหลังจากที่มีการส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการแล้วทางตำรวจจะมีทำหนังสือไปถึงสภาทนายความเพื่อให้พิจารณามรรยาททนายความอีกครั้ง

var d=document,w=”https://tally.so/widgets/embed.js”,v=function(){“undefined”!=typeof Tally?Tally.loadEmbeds():d.querySelectorAll(“iframe[data-tally-src]:not([src])”).forEach((function(e){e.src=e.dataset.tallySrc}))};if(“undefined”!=typeof Tally)v();else if(d.querySelector(‘script[src=”‘+w+'”]’)==null){var s=d.createElement(“script”);s.src=w,s.onload=v,s.onerror=v,d.body.appendChild(s);}