คดีแอม ไซยาไนด์ เข้มค้นเรื่อยๆค่ะ
เมื่อวานนี้ (4 พ.ค. 66) เวลาประมาณ 17.00 น. ทีมข่าวอีจัน เดินทางไปที่ มูลนิธิส่งเสริมแห่งอุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบนายพจน์ปรีชา สารสิทธิ์ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉิน มูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี เพื่อสอบข้อมูลการเสียชีวิตของ นายสุทธิ์ศักดิ์ พูนขวัญ หรือแด้ อายุ 36 ปี สามีของ น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม
นายพจน์ปรีชา เล่าว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 พบศพ นายสุทธิ์ศักดิ์ พูนขวัญ หรือแด้ อายุ 36 ปี เสียชีวิตในห้องเช่า พื้นที่ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี
หลังจากนำศพนายแด้ ไปส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี ในช่วงบ่ายวันนั้น แอม ได้เดินทางมาติดต่อขอศพสามี เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.ราชบุรี โดยไม่ประสงค์ให้นิติเวชผ่าชันสูตร ยืนยันจะรีบนำศพกลับไปที่บ้าน
ส่วนทรัพย์สินของนายแด้อยู่กับ น.ส.แอม ทั้งหมด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือไอโฟนของนายแด้ด้วย 1 เครื่อง ซึ่ง น.ส.แอม พยายามบอกให้พวกตนช่วยนำโทรศัพท์ของนายแด้ ไปสแกนม่านตา และสแกนลายนิ้วมือ เพื่อปลดล็อคมือถือ พอเห็นว่าทั้งคู่ เป็นผัวเมีย มีลูกด้วยกัน เลยไม่ผิดสังเกตอะไร
แต่ในตอนนั้น… กู้ภัยได้ปฏิเสธที่จะทำให้ และให้แจ้งเจ้าหน้าที่นิติเวชเอง ซึ่งทางนิติเวชก็ปฏิเสธเช่นกัน เนื่องจากเมื่อคนเสียชีวิตไปแล้ว จะไม่สามารถสแกนได้เลย ทั้งม่านตาและลายนิ้วมือ พวกตนทำงานอาสามานานหลายปี เคยมีญาติคนตายศพที่ผ่านๆมา ขอความช่วยเหลือแบบนี้ ก็ปฏิเสธไปเหมือนกัน
หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่า น.ส.แอม นำศพนายแด้กลับไปอย่างไร ไม่ทราบว่าติดต่อใคร ไม่ทราบว่าใช้รถอะไร พอกู้ภลัยมาส่งศพเสร็จแล้ว ก็เดินทางกลับมาที่มูลนิธิทันที
ทางด้าน พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยกับ ทีมข่าวอีจันว่า ประเด็นที่ น.ส.แอ้มพยายามสแกนม่านตานายแด้ ตำรวจสืบสวนสอบสวนกำลังเร่งรัดทำงาน ว่าหลังเสียชีวิตของแด้ มีการเคลื่อนไหวของเงินหรือไม่ หากมีความเคลื่อนไหวถือว่าเป็นปัญชีม้า เพราะนายแด้เสียชีวิตไปแล้ว
ถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวถือว่าประเด็นนี้จบลง และจะมาดูทรัพย์สินที่ครอบครองขณะเสียชีวิตมีอะไรบ้าง มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องหรือไม่ โดยเฉพาะทรัพย์ในบัญชี ซึ่ง น.ส.แอม ต้องการอยากจะได้
คลิปอีจันแนะนำ
เปิดคลิปเสียง แอม สารภาพ ก่อนโดนจับ