ใครจะไปสาดน้ำกรดคนอื่นได้
มีแต่ในละครเท่านั้นแหละ
เชื่อไหมว่า อาจมีบางคนที่ (เคย) คิดแบบนี้
แต่ความเป็นจริงแล้ว… ในสังคม มันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ ค่ะ
ส้ม (นามสมมติ) อายุ 38 ปี เธอเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา เธอสวย หน้าตาดี และเคยมีแฟนค่ะ อดีตแฟนของส้ม ชื่อ ดำ (นามสมมติ) ทั้งคู่เลิกรากันไป 2 เดือน ซึ่งที่ผ่านมา นายดำ พยายามง้อขอคืนดีกับ ส้ม มาโดยตลอด แต่เธอใจแข็งไม่กลับไปคืนดีด้วย … เรื่องนี้ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพตายทั้งเป็น นายดำ ชายที่เธอเคยรัก และพร่ำบอกรักเธอ เป็นคนลงมือ สาดน้ำกรดใส่ส้ม จนส้ม เสียโฉม ทุกข์ทรมานแสนสาหัส
เรื่องนี้ พี่ชายของ ส้ม จึงเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และบอกว่า ส้ม น้องสาวของเขา ถูกอดีแฟนใช้น้ำกรดประมาณ 2 ลิตร สาดตั้งแต่ศีรษะลงมาทั่วร่างกาย ตามลำคอ หน้าอก แผ่นหลัง ลำตัวและแขน ของส้มบาดเจ็บแสนสาหัส
น้องสาวของเขาต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องปลอดเชื้อโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ก่อนย้ายไป รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
หลังเกิดเหตุ พี่ชายของส้ม ได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ด้วยเกรงว่าน้องสาวกับครอบครัวจะไม่ปลอดภัย จึงมาร้องขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิปวีณาฯ
นายกร ผู้เป็นพี่ชาย เล่าด้วยว่า น้องสาวคบหากับนายดำ มาประมาณ 2 ปี แรกๆ นายดำก็เป็นคนดี แต่ระยะหลังเริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน ซึ่งคาดว่านายดำอาจจะติดการพนัน และนายดำมักจะหาเรื่องทะเลาะกับน้องสาวเป็นประจำ ช่วงเดือน ก.พ. 67 น้องสาวบอกเลิกกับนายดำ แต่นายดำก็ยังพยายามตามง้อขอคืนดี
ต่อมา ตนเห็นข่าวที่นายดำไปขโมยของวัดจนถูกแจ้งความดำเนินคดี เป็นข่าวโด่งดัง ตนจึงบอกน้องสาวให้ระวังตัว น้องสาวก็ต้องหลบหนีไปอยู่บ้านเพื่อนบ่อยครั้ง
กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 9 เม.ย. 67 ระหว่างที่น้องสาวขับรถออกไปกินข้าวกับเพื่อน นายดำได้แอบตามไปโดยที่น้องสาวไม่รู้ตัว
และวันนั้นคือวันอันโหดร้ายของส้ม ที่เปลี่ยนชีวิตเธอ ไปตลอดกาล…
พี่ชาย เล่าว่า วันนั้นน้องสาวน่าจะลืมล็อกรถขณะเข้าไปในร้านอาหาร ทำให้นายดำแอบเข้าไปหลบซ่อนตัวในรถอยู่ที่เบาะหลัง จนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม น้องสาวได้ขับรถไปส่งเพื่อนที่หอพัก แล้วกำลังจะขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางจู่ๆ นายดำก็โผล่ขึ้นจากเบาะหลัง และบังคับให้น้องสาวขับรถมุ่งหน้าไปทางซอยคลองพุทรา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
เมื่อไปถึงบริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง น้องสาวจึงจอดรถและลงมาจากรถ นายดำก็ได้ถือแกลลอนลงจากรถเดินตามมาด้วย แต่น้องสาวไม่รู้ว่าในแกลลอนมีอะไร
ตอนนั้น นายดำ พยายามง้อขอคืนดีแต่น้องสาวไม่ยอมและโทรหาเพื่อนให้มาช่วย ซึ่งเป็นจังหวะที่น้องสาวไม่ทันระวังตัว นายดำ กระชากผมน้องสาวจากด้านหลังก่อนจะเทน้ำกรดที่อยู่ในแกลลอน ราดที่ศีรษะลงมาตามลำตัว
ทันทีที่น้ำกรดสัมผัสบนร่างกายของเธอ ส้ม กรีดร้องด้วยความปวดแสบปวดร้อน และวิ่งเข้าไปหา รปภ.หมู่บ้าน กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนที่พลเมืองดีจะแจ้งกู้ภัยมารับตัวส้มส่งโรงพยาบาล ส่วนนายดำอาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหลบหนีไป ขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้เป็นหลักฐาน
ด้านแพทย์ ที่ให้การรักษาระบุว่า น้องสาวถูกน้ำกรดผิวหนังเสียหายลึกอยู่ในระดับ 3 และต้องประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลอื่นมาช่วยดูอาการก่อนจะประเมินการรักษา
ตอนนี้น้องสาวจิตใจย่ำแย่มาก เมื่อเห็นสภาพตัวเองและกลัวว่านายดำจะย้อนมาทำร้ายน้องสาวซ้ำอีก ทุกวันนี้ครอบครัวอยู่อย่างหวาดผวา
เบื้องต้น นางปวีณา จึงประสาน พ.ต.อ.อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน และได้รับทราบว่า ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายดำแล้ว และกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี
นางปวีณา กล่าวด้วยว่า ตนเองเป็นห่วงสภาพร่างกายและจิตใจน้องส้ม ซึ่งจำเป็นจะต้องรักษาตัวระยะยาวโดยทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามอาการของน้องส้ม และจะประสาน รพ.ยันฮี เพื่อวางแผนการรักษาในระยะยาวต่อไป
อีจัน ได้รับรู้เรื่องราวของส้ม… ได้แต่สงสารเธอมากๆ ทำไมหนอ เธอถึงต้องถูกกระทำความรุนแรงเยี่ยงนี้ คนที่เธอเคยรัก และเคยบอกรักเธอ ลงมือทำร้ายส้มอย่างไม่ใยดี เหมือนไม่เคยมีความรักให้กัน
จากรัก…กลายเป็นแค้น…ทำลาย…ทำร้ายอีกฝ่ายให้เจ็บปวด
เป็นกำลังใจให้กับส้มนะคะ ขอให้เธอเข้มแข็ง และแข็งแกร่ง รอวันหายดี แล้วได้กลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้ง