จากกรณีเด็กช่างต่างสถาบัน ลวงอุ้มอริ 3 ราย กักขัง รุมซ้อม บังคับอมนกเขา เผาขนเพชร ปืนจ่อหัว จุดไฟลนอวัยวะเพศ เอามีดกรีดทั่วร่างกาย หลังถูกปล่อยตัวครอบครัวเข้าแจ้งความ ล่าสุดตำรวจสืบรู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว ขณะนี้ติดตามตัวมารับโทษได้ 2 ราย!
จากเหตุการณ์ข้างต้น วานนี้ (13 พ.ย. 65) ทางครอบครัวของ 3 หนุ่มช่างกลซึ่งตกเป็นผู้เสียหายเข้าชี้ตัวผู้ก่อเหตุที่ สน. หัวหมาก โดยตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 ราย หลังมีการสืบทราบผู้ร่วมก่อเหตุครั้งนี้ถึง 17 ทรชนด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครอบครัวผู้เสียหายได้ไปร้องต่อ ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ให้ช่วยเหลือทางคดี
ซึ่งผู้เสียหายได้ให้สัมภาษณ์สื่อว่า
ผู้เสียหาย1 อายุ 16 ปี เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเอาโทรศัพท์รุ่นพี่ของตนทักมา บอกให้ไปรับหน่อย ตนก็เลยไปกับเพื่อนอีก 1 คน เมื่อถึงที่นัดหมายตนแช็ตกลับไปว่ามาถึงแล้ว ไม่นานนักมีวัยรุ่น 2 คนขับรถมาประกบหน้าประกบหลัง ตนกับเพื่อนก็พยายามจะวิ่ง แต่มีวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งถือปืนมาบอกตนว่าอย่าขยับ ก่อนจะถามตนว่า “เรียนที่ไหน”
ตนตอบไปว่า “เคยเรียนอยู่ที่สถาบันอุตสาหกรรม… แต่ตอนนี้ไม่ได้เรียนแล้ว”
แต่ด้านผู้ก่อเหตุก็ยังบังคับให้พวกตนขึ้นรถไปด้วย พวกตนโดนมัดมือ ปิดตา กระทั่งถึงบ้านหลังหนึ่งซึ่งตนเห็นว่า รุ่นพี่ที่นัดตนให้มารับถูกจับมาไว้ก่อนแล้ว จากนั้นทั้ง 3 โดนกลุ่มทรชนที่จับมารุมกระทืบจนสลบ ยึดโทรศัพท์ขาดการติดต่อ
หลังพวกตนฟื้นยังโดนทรมานต่างๆ ทั้งเอาสายไฟรัดคอ บังคับให้ทะเลาะกันเอง และบังคับให้อมนกเขาของผู้ก่อเหตุ ซึ่งบังคับข่มขู่ให้พวกตนด้วยการเอาปืนจ่อ บอกว่าถ้าไม่ทำจะยิง พวกตนต้องทำไปเพราะความกลัว และในบ้านที่ก่อเหตุมีพ่อของผู้ก่อเหตุอยู่ด้วยซึ่งก็รู้เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากตนได้ยินตอนที่พ่อของผู้ก่อเหตุโทรมาบอกลูกว่าให้เบาๆ หน่อยคนอื่นรู้หมดแล้ว
พวกตนเจ็บหนักเคยถึงขั้นยกมือไหว้ขอให้หยุดการกระทำแต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้ฟัง และภาพขณะที่พวกตนถูกบังคับ ทรมาน ผู้ก่อเหตุถ่ายเก็บไว้ก่อนโพสต์ลง tiktok
แต่สิ่งที่ทำให้ตนตกใจคือ 1ในผู้ก่อเหตุค่อนข้างจะมีชื่อเสียงในสายเด็กช่าง ตนก็พอรู้จักและรู้ว่าเรียนที่ไหน ซึ่งสถาบันที่ต่างฝ่ายเรียนอยู่นั้นเป็นอริกัน
หลังตนโดนปล่อยตัวออกมาแล้ว ยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกะโหลกร้าวจากการที่ผู้ก่อเหตุใช้ปืนทุบหัว
ผู้เสียหาย2 อายุ 17 ปี เป็นรุ่นพี่ของผู้เสียหายที่1 เล่าว่า ตนได้ถูกจับมาก่อน ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ 27 ต.ค. 65 ซึ่งผู้ก่อเหตุหนึ่งในกลุ่มนั้นได้ทักมาหาตนแล้วบอกจะมานั่งเล่นที่บ้าน ตนก็ลงมาหา และได้ชวนกันขับรถออกไปซื้อของ เมื่อขับออกไปสักพัก มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถมาประกบ คนที่นั่งซ้อนท้ายตนเอาของบางอย่างมาจี้ที่หลังตนก่อนพูดขึ้นว่า “มีลูกกระสุนอยู่ 2 นัด ถ้ามึงโดดลง มึงโดนยิงแน่” ตนไม่กล้าขยับกระทั่งรถพามาจอดหน้าบ้านดังกล่าว
3 วันก่อนที่รุ่นน้องของตนจะถูกลวงมา ตนโดนทำร้ายร่างกายต่างๆ ทั้งใช้ปืนตบหน้า เผาขนเพชร แล้วเอามีดกรีดตามน่องขาแขน เอาบุหรี่จี้ลิ้น ตนเห็นหน้าผู้ก่อเหตุก็จำได้ เพราะก่อนหน้านี้เคยเรียนอยู่สถาบันเดียวกัน แต่ตนได้ลาออกไปแล้ว ทางผู้ก่อเหตุคิดว่าตนไปเรียนที่สถาบันคู่อริ จึงเกิดเหตุดังกล่าว
และที่ทั้ง 3 หนุ่มรอดมาได้ เนื่องจาก แม่ของผู้เสียหายที่2 รู้ว่าจะมีเพื่อนมานั่งที่บ้าน มาหาลูก แต่หลังจากนั้นลูกหายไปไร้การติดต่อ ตนโทรไปหลายสายไม่มีใครรับ กระทั่งเที่ยงคืนของวันนั้น ลูกตอบกลับมาว่าอยู่บ้านเพื่อน ตนก็สบายใจขึ้นก่อนจะบอกให้ลูกกลับบ้าน เวลาผ่านไป 5.30 น. ลูกชายยังไม่กลับบ้าน ตนพยายามติดต่อให้ลูกส่งพิกัดมาแต่ก็เงียบ
แม่เริ่มกังวล…
กระทั่งวันที่ 29 ต.ค. 65 เพื่อนลูกชายติดต่อมาหาตน ถามเรื่องโพสต์ในเฟซบุ๊กที่ลูกชายตนโพสต์ว่า “อยากอยู่คนเดียว” ตนซึ่งเป็นแม่รู้ทันทีว่านั่นไม่ใช่ลูกชาย เพื่อนของลูกชายจึงบอกตนว่า ลูกน่าจะโดนคู่อริจากสถาบัน…จับไป แม่เลยขอช่วยให้เพื่อนที่ติดต่อมาช่วยกระจายข่าว หากไม่ปล่อยตัวลูกจะไปแจ้งความ!
หลังจากนั้นตนลองโทรหาลูกชายอีกครั้ง ครั้งนี้มีคนรับ ปลายสายเป็นเสียลูกชาย… “อยู่บ้านเพื่อน”
ตนถาม อยู่บ้านเพื่อนที่ไหนแม่จะไปรับ ถ้าไม่กลับจะไปแจ้งความ!
สิ้นเสียงแม่ โทรศัพท์ถูกคว้าไปจากมือลูกชาย ปลายสายไม่รู้ว่าใครตอบกลับมาว่า “ลูกแม่อยู่กับผม เดี๋ยวผมจะไปส่งเอง”
แม่โต้กลับ “อีก 30 นาที หากลูกชายยังไม่ถึงบ้าน แม่จะไปแจ้งความ”
แม่สุดเจ็บปวดเมื่อเห็นสภาพลูกชาย รับไม่ได้จริงๆ ขอดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
เบื้องต้น ตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด 17 คนแล้ว ได้ออกหมายจับไป 3 คน สามารถจับกุมได้แล้ว 2 คน วันนี้จึงได้ติดต่อให้ครอบครัวผู้เสียหายไปชี้ตัวผู้ก่อเหตุ
