
สุดเศร้าเคล้าน้ำตา แม่ใหญ่วัย 75 เตรียมผ้าขาวม้า-สะโหร่งผ้าไหม ที่ทอเองกับมือ รอรับศพลูกชาย หนึ่งในเหยื่อสงครามอิสราเอล
เมื่อวานนี้ 31 ต.ค. 66 นางจันทร์ วิเศษสัตย์ อายุ 75 ปี ชาวบ้านยางพัฒนา ม.7 ต.บ้านยาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ แม่ของเหยื่อแรงงานไทย ที่ตายในอิสราเอล จัดเตรียมผ้าขาวม้าและสะโหร่งผ้าไหม ที่ทอเองกับมือ ไว้รอรับร่างลูกชาย ที่ทางการ จะนำศพกลับไทย คาดว่าจะถึงในบ่ายวันนี้ 1 ต.ค. 66 เพื่อมาบำเพ็ญกุศล ตามประเพณีที่บ้านเกิดพรุ่งนี้ ซึ่งร่างนี้ จะเป็นศพแรกของ จ.บุรีรัมย์ จากจำนวนแรงงาน ที่เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย ชาวบ้านแห่มาให้กำลังใจ
ขณะที่ชาวบ้านและญาติพี่น้องลูกหลาน ต่างก็เดินทางมาให้กำลังใจคุณยายจันทร์ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังได้ช่วยกันจัดเตรียมโต๊ะและพืชผัก วัตถุดิบในการประกอบอาหาร ไว้เตรียมจัดงานศพด้วย ซึ่งนายจรูญ ถือเป็นแรงงานรายแรก หนึ่งใน 3 รายของแรงงานชาวจ.บุรีรัมย์ ที่ถูกส่งศพกลับมาไทยเพื่อให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา
คุณยายจันทร์ บอกว่า ลูกชายขาดการติดต่อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66 วันที่เกิดเหตุสู้รบกันวันแรก ถึงแม้ทางพี่สาวจะพยายามติดต่อแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งเมื่อสัปดาห์ก่อนมีรายชื่อว่าลูกชาย เป็นหนึ่งในแรงงานชาว จ.บุรีรัมย์ ที่เสียชีวิตจากที่มีรายชื่อ 3 ราย ก็ตกใจเพราะที่ผ่านมา ก็มีความหวังว่าลูกชายจะรอดชีวิตกลับมา แต่วันนี้ทางอำเภอได้มาแจ้งยืนยันว่าทางการจะนำศพนายจรูญ ลูกชายกลับมายังไทย ก่อนจะส่งศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ก็รู้สึกเสียใจที่ลูกชายได้กลับมาแบบไม่มีชีวิตแล้ว ก็พยายามจะทำใจแต่เวลาที่อยู่คนเดียวก็จะนั่งร้องไห้ เพราะนายจรูญ เป็นลูกชายคนเล็กและเป็นเสาหลักที่ทำงานส่งเงินมาดูแลแม่ แต่ตอนนี้ไม่มีลูกชายอยู่ดูแลแล้ว ก็อยากให้ทางภาครัฐช่วยเหลือ
ด้านนางพิมพา อายุ 47 ปี พี่สาวคนที่ 3 บอกว่า หลังทราบข่าวยืนยันชัดเจนว่า น้องชายเสียชีวิตและทางการจะนำศพกลับมาส่งให้ทางครอบครัวประกอบพิธีทางศาสนา ก็สงสารน้องที่ต้องมาเสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ที่เป็นห่วงคือสภาพจิตใจของแม่เพราะอายุมากแล้ว ซึ่งลูกหลานก็ต้องผลัดเปลี่ยนกันมาคอยอยู่เป็นเพื่อนและให้กำลังใจ ก็อยากให้ทางภาครัฐช่วยเหลือทั้งเรื่องงานศพ และอยากให้ดูแลแม่ด้วย เพราะหลังจากน้องชายเสียชีวิตก็เหมือนขาดเสาหลัก
อีจันก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยนะครับ