ตำรวจขอนแก่น บุกรวบครู สวมสิทธิ์ คนละครึ่ง

จนท. ตำรวจขอนแก่น นำหมายจับ บุกรวบครู หรือ ดร.ภูผาภูมิ สวมสิทธิ์ โครงการเยียวยาของรัฐ “ คนละครึ่ง ”

วันที่ 6 ก.พ.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังพร้อมหมายจับรวบ ดร.ภูผาภูมิ ผู้ต้องหาหลอกชาวบ้านสวมสิทธิ์โครงการ คนละครึ่ง และโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน พร้อมคุมตัวสอบปากคำ ขณะที่ครูฝนถูกตั้งข้อหาร่วมกัน ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

โดยเมื่อเวลา 13.00 น.ของวันนี้ (6 ก.พ.64) ที่กองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เดินทางเข้าสอบปากคำ ว่าที่ ร.ต.ดร.ภูผาภูมิ โมรีย์ อยู่ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ26 /2564 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ในข้อหาเอาไปเสีย หรือไว้ ซึ่งบัตรหรือใบรับรอง หรือใบแทนใบรับรองของผู้อื่น เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ, ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

สืบเนื่องจากชาวบ้านโนนค้อ ม.2 ต.โคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น จำนวน 38 คน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ.บ้านฝางว่า ช่วงเดือนตุลาคม 2563 ว่าครูฝนเอาเงินมาแจก 200 บาท บอกว่าเป็นเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน คนที่ไม่ได้ไปเที่ยว จะได้คนละ 200 บาท แล้วถ่ายเอารูปบัตรประชาชนของชาวบ้านไป ต่อมารัฐบาลให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เราชนะ ชาวบ้านจึงได้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมในการที่จะรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ลงทะเบียนไม่ได้ จึงมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกัน โดยให้ธนาคารกรุงไทยทำการตรวจสอบ จนทราบว่า ชื่อของชาวบ้านนั้น มีการนำไปผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งและโครงการเที่ยวด้วยกัน ชาวบ้าน จึงได้มีการสอบถามกับครูฝน โดยมีครูภูผาภูมิมาร่วมเจรจา โดยครูภูผาภูมิจะให้เงินชดเชยกับชาวบ้านที่ถูกเอาชื่อไปผูกกับเบอร์โทรศัพท์รายละ 1,000-2,000 บาท แต่ชาวบ้านไม่ยินยอมและยืนยันจะให้ตำรวจจับกุมตัวครูทั้งสองคนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

และเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ครูฝน ซึ่งเป็นบุคคลที่ชาวบ้านกล่าวหา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.บ้านฝาง เพื่อให้ปากคำกับกรณีที่เกี่ยวข้อง โดยให้ปากคำนานกว่า 10 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมหลักฐานในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับครูภูผาภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหากับ ครูฝนในข้อหา ร่วมกัน ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งภายหลังแจ้งข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนก็ปล่อยตัวไป

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับครูภูผา และขอหมายค้นเข้าตรวจค้นจำนวน 3 จุด คือบ้านของครูภูผา บ้านมารดาครูภูผาและบ้านครูฝน ได้หลักฐานซึ่งเป็นเอกสารและสมุดบัญชีรายชื่อของชาวบ้านโนนค้อ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และขณะเข้าตรวจค้น พบครูภูผาในบ้านพัก จึงควบคุมตัวครูภูผา ผู้ต้องหาตามหมายจับไปทำการสอบสวน

โดยขณะนี้ครูภูผาภูมิ ถูกควบคุมตัวและถูกสอบสวนที่ กก.สส.3 บก.สส.ภ.4 โดยห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนถ่ายภาพทำข่าวเด็ดขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า พล.ต.ท.ยรรยง เชโอสถ ผบช.ภ.4 จะทำการแถลงข่าว ต่อสื่อมวลชนในวันจันทร์ ที่จะถึงนี้ หรือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564