นับถอยหลัง คดีน้องชมพู่ ใกล้จบ เเม่เปิดบันทึก ความในใจหลังเสียลูก ย้ำ ไม่ อโหสิกรรม เด็ดขาด

เข้ามิถุนายน คดีน้องชมพู่ ใกล้จบ ? แม่เปิดบันทึก ความในใจหลังสูญเสียลูก ย้ำ ไม่มีวัน อโหสิกรรม ให้คนที่ทำกับน้อง เด็ดขาด

คดีน้องชมพู่ ใกล้ถึงบทสรุป ? หลังจากคดีนี้ผ่านมาอย่างยาวนานถึง 1 ปีเต็ม แต่ก็ยังไร้วี่แววว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ แต่ล่าสุด เมื่อ 17 พ.ค.64 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีน้องชมพู่ หลังจากครบรอบ 1 ปีไปเมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 ที่ผ่านมา “คดีน้องชมพู่ วันไหน เดี๋ยวคงจะมีการแถลงข่าวอย่างชัดเจน ผมเชื่อว่ามีคำตอบที่สังคมพอใจ เอาอย่างนี้แล้วกัน ก็ขอให้ดู ผมเชื่อว่าไม่เกิน มิถุนายน นี้ ดีหรือไม่ดี ให้ทุกท่านตัดสินแล้วกัน แต่ผมมีคำตอบให้”

ซึ่งในวันนี้ (1 มิ.ย. 64) ก็เข้าสู่เดือนมิถุนายนแล้ว ด้านแม่ของน้องชมพู่ เริ่มนับหนึ่งเดือนแห่งความหวัง หลังจากที่มีกระแสข่าวการออกหมายจับคนร้ายในคดี “น้องชมพู่” รวมไปถึงจะมีความคืบหน้าสำคัญของคดีภายในเดือนมิถุนายนนี้ ตามที่ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กล่าวไว้

วันนี้ นางสาวิตรี นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อและแม่น้องชมพู่ พร้อมด้วยญาติ ได้ไปทำบุญที่วัดถ้ำภูผาแอก ในวันคล้ายวันเกิดโดยแม่น้องชมพู่ บอกว่ามาทำบุญวันนี้ไม่มีอะไรพิเศษ มาเพราะเป็นวันเกิด แต่เรื่องคดีน้องก็ลุ้นว่าจะจับคนร้ายจริงหรือไม่ แต่ก็ไม่เกี่ยวกับการทำบุญ และก็ขอพรให้ตัวเองแข็งแรง และสัญญาว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะทำอนาคตให้ดี

ส่วนคดีน้องชมพู่ตอนนี้ได้รับข่าวสารว่า ผบ.ตร.จะมีข่าวดีในเดือนนี้ ก็ใจจดใจจ่อกับคดีเพิ่มมากขึ้น วันนี้เริ่มต้นวันที่ 1 แม่จะรอจนถึงวันที่ 30 ความกดดันตอนนี้น่าจะอยู่กับเจ้าหน้าที่ เพราะว่าเขาเป็นคนทำงาน ในส่วนตัวยังมั่นใจว่าจะมีการจับแน่นอน เพราะทางผู้ใหญ่ออกมาพูดชัดเจนแล้ว ถ้าวันนั้นมีจริงจับคนร้ายได้ ทางแม่ก็จะถามคนร้ายว่าทำได้ยังไง ทำเพื่ออะไร อยากถามอยากได้คำตอบ ส่วนเรื่องอโหสิกรรมนั้น จะไม่ยอมอโหสิกรรมเด็ดขาดไม่ว่าใครก็ตาม

ซึ่งเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.64) แม่น้องชมพู่ก็ได้มีการเปิดบันทึก ซึ่งเขียนข้อความด้วยลายมือ ลงบนกระดาษเป็นข้อความที่เก็บไว้ในใจตลอดเวลาเกือบ 1 ปี โดยเริ่มบันทึกหลังน้องชมพู่เสียชีวิต 4 เดือน เพราะไม่อยากพิมพ์ระบายผ่านเฟซบุ๊ก เพราะช่วงนั้นมีดราม่าเข้ามาตลอด จึงเลือกที่จะเขียนมากกว่าพิมพ์ โดยบันทึกมีทั้งหมด 4 แผ่น

หน้าที่ 1 ประมาณ 20 บรรทัด มีใจความคร่าวๆ ว่า “ข้าพเจ้านางสาวิตรี วงศ์ศรีชา หรือแม่น้องชมพู่ บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งลูกสาวคนเล็กถูกพรากจากอกไป จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ที่ไม่ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ของน้อง ที่ดังมาจากบนบ้าน แม่จ๋า ขึ้นเทิง ขึ้นเทิง (คำเรียก ลูกเรียกแม่ขึ้นบนบ้าน) มานอนนำน้อง ไม่ได้ยินเสียงมานานแล้ว ยังคิดถึงลูกเสมอ นาทีนี้ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นตัวหนังสือได้อีก เพราะม่านตาพร่ามัวมองไม่เห็นเส้นบรรทัด

หน้าที่ 2 มีข้อความว่า “ไม่มีรักไหนยิ่งใหญ่เท่ารักจากพ่อแม่ ไม่มีรักใดมั่นคงเท่าสายเลือด ไม่มีรักใดไม่ใช้เวลา 3 ปีที่ร่วมทางกันมา มันมีค่าเกินกว่าจะบอกใคร”

หน้าที่ 3 มีข้อความว่า “ฝากไปให้แม่ ไม่รู้ลูกได้รับหรือเปล่า ฝากไปให้เพื่อผ่อนคลายความโศกเศร้า ฝากไปให้แทนความรักในใจเรา”

หน้าที่ 4 มีข้อความว่า ลงวันที่ 10 ก.ย.63 ใกล้สิ้นสุดแล้วจริงหรือ ข้าพเจ้าขอภาวนาให้สิ่งที่ได้รับรู้ในวันนี้เป็นความจริงด้วยเถิด อยากพ้นจากความทุกข์นี้เสียที วิกฤตชีวิตครั้งนี้หนักหนายิ่งนัก มีเพียงคำสอนหลักพระพุทธศาสนา ที่พอพยุงสติข้าพเจ้าให้มีสมาธิ และความอดทน ข้าพเจ้าสัญญากับตัวเอง ไม่ว่าคนไหนที่ทำกับลูกก็ตามที่บังอาจทำให้ลูกสาวตัวน้อยของข้าพเจ้าที่มีแม้แต่รอยขีดข่วนข้าพเจ้าไม่มีวันให้อหสิกรรมให้เด็ดขาด ซ้ำยังของสาปแช่งให้ได้รับเคราะห์กรรมถูกเจ้ากรรรมนายเวร ตามอาฆาตเอาทุกชีวิต ทุกชาติไป

คดีของน้องชมพู่ ที่จะจบลงอย่างไร ต้องติดตาม