ร้องปวีณา สามีทหารเกณฑ์ ทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ เจ็บหนัก กระดูกสะโพกแตก !

สาวอุดรฯ ร่ำไห้ ร้องปวีณา ! สามีทหารเกณฑ์ ทำร้ายลูกชายวัย 2 ขวบ เจ็บหนัก กระดูกสะโพกแตก หน้าตาเขียวช้ำบวมปูด อ้าง ตีเพื่อสั่งสอน ?

เกิดเหตุสะเทือนใจอีกแล้วค่ะ ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี

เมื่อวันที่ 7 พ.ค.64 น.ส.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ชาวอ.นายูง จ.อุดรธานี ได้ร้องทุกข์มาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ด.ช.ต้น (นามสมมติ) ลูกชายคนที่ 2 วัย 2 ขวบ ถูกนายเอก (นามสมมติ) อายุ 24 ปี สามีตนซึ่งเป็นทหารเกณฑ์และเป็นพ่อเลี้ยงทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บกระดูกสะโพกแตก และตามใบหน้าเขียวซ้ำบูดบวม จนลูกต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.นาโยง จ.อุดรธานี

น.ส.หนึ่ง เล่าว่า ตนอยู่กินกับนายเอก มาได้ประมาณ 1 ปี โดยตนมีลูกติดจากสามีเก่า 3 คน อายุ 4 ขวบ 2 ขวบ และ 1 ขวบ มาอยู่ด้วย เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณเที่ยง ตนได้ไปทำกับข้าวให้ลูกที่บ้านพี่สาวซึ่งอยู่ละแวกเดียวกัน จึงปล่อยให้ ด.ช.ต้น อยู่ในบ้านกับนายเอกกัน 2 คน จากนั้นไม่นาน ตนได้ยินลูกร้องเสียงดังจึงได้รีบเดินกลับมาบ้าน และพบว่าใบหน้าลูกบวมแดง ร้องไห้จ้า

นายเอก อ้างว่า บอกให้ลูกไปนอนแต่ลูกไม่นอนแล้วร้องไห้ จึงเกิดความโมโหใช้มือตบตีตามใบหน้าและลำตัวเพื่อสั่งสอน จากนั้นตนจึงได้พาลูกเข้าแจ้งความที่ สภ.นาโยง และตำรวจส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่ รพ.อุดรธานี แพทย์ระบุว่า กระดูกสะโพกแตก และใบหน้าเขียวซ้ำบูดบวม ให้นอนพักที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ 2 วัน และตนกลัวว่านายเอกจะย้อนกลับมาทำร้ายอีกจึงได้พาลูกออกจากโรงพยาบาลช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ค.64 และขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยประสานตำรวจให้ความปลอดภัยและติดตามคดีให้ความเป็นธรรมด้วย

หลังรับเรื่อง คุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.สกล เฟื่องกระแสร์ ผกก.สภ.นายูง และนัดหมายให้ น.ส.หนึ่ง แม่ของเด็กชายต้นเข้าพบในวันนี้ (8 พ.ค.64) เวลา 09.00 น. เพื่อให้รายละเอียดและนัดสอบสหวิชาชีพเด็กโดยเร็ว ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับนายเอก พ่อเลี้ยง ตามขั้นตอนกฎหมาย และคุณปวีณายังได้ประสาน นางเยาวพรรณ แช่มพุดซา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี ไปเยี่ยมเด็กเพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดี และประสานกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือเงินเยียวยา พร้อมกับติดตามการช่วยเหลือร่วมกับทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป

ด้านนางปวีณา กล่าวว่า สถิติปี 63 เด็กถูกทำร้ายร่างกายมากที่สุดคือ จากคนใกล้ชิด คนรู้จัก ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองควรเพิ่มความระมัดระวังดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด