ลุ้นคำพิพากษา คดีน้องจูน ถูกอดีตสามีทำร้าย พรุ่งนี้ 11 พ.ย. 64

พรุ่งนี้ (11 พ.ย. 64) ลุ้นคำพิพากษาศาลทหารสูงสุด คดีน้องจูน ถูกอดีตสามีทำร้าย คนทำผิดจะได้รับกรรมที่ก่อไว้หรือไม่?

จำคดีนี้ได้ไหม? น้องจูน สุกฤตา ถูกอดีตสามีซึ่งเป็นนายทหารยศ ร.ต. ทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส กะโหลกร้าว เสียโฉม สาเหตุเพราะ ฝ่ายชายโมโห ที่ถูกน้องจูนจับได้ว่าไปมีผู้หญิงอื่น โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค. 2559

ผ่านมา เกือบ 5 ปี คดีใกล้ถึงตอนอวสาน ความยุติธรรมใกล้ปรากฏ เพราะในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย. 64) จะเป็นวันที่ศาลทารสูงสุด นัดตัดสินคดี ที่ทั้งแม่และน้องจูน รอคอยมาเนิ่นนาน…

ทีมอีจัน เดินทางมาหาน้องจูน และแม่ ถึงบ้านในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

แม่เก่ง หรือ นางสุนทรีย์ แม่ของน้องจูน เปิดใจกับอีจัน ก่อนวันตัดสินคดีที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย. 64) ว่า รอคอยมานานเกือบ 5 ปี พรุ่งนี้คือวันที่ตนและลูกรอคอยมาตลอด เพราะว่ากระบวนการทางกฎหมาย มีการสอบปากคำพยานฝั่งของน้องจูนทั้งหมด 17 ปาก ซึ่งก็ต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งพอทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เรื่องถึงศาลแล้ว เราก็ไม่ก้าวล่วง เรามีหน้าที่ไปศาลตามที่ศาลนัด

และวันพรุ่งนี้ ก็เป็นวันแห่งความหวัง วันที่จะปลดล็อกทุกอย่าง เพราะรอวันนี้มานาน ซึ่งในส่วนของตนนั้น ถ้าหากตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทุกนัดที่ศาบนัดไปฟังการสืบพยานตนจะไม่รู้เลยว่าเป็นยังไง แต่ทุกครั้งที่เราไปเราได้ฟังการสืบของพยานแต่ละปาก เราก็รู้สึกว่า ฝ่ายของเรา 90 เปอร์เซ็นต์ ไปในทิศทางที่ดีมาก ทุกอย่างเป็นหลักฐานที่แน่นหนามาก

“ถ้าในส่วนของแม่ แม่อยากบอกว่า แม่อโหสิกรรมให้เขามานานมากแล้ว แต่การรอคอยของเราสองคนแม่ลูก เราก็ยังเชื่อว่า เราสองคนแม่ลูกต้องได้รับความยุติธรรม ความยุติธรรมต้องมีอยู่จริง แม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาล รวมถึงถ้าเราไม่อาฆาต ไม่คิดแค้นกับอีกฝ่าย ก็เชื่อว่าจะสิ่งรี้จะทำให้ลูกอาการดีขึ้น ถ้ามัวแต่ไปแค้น บางทีตอนนี้บูกแม่อาจจะยังเดินไม่ได้ก็ได้”

เมื่อถามถึงการรักษาที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง แม่เก่งบอกว่า ตอนที่อยู่ รพ.หัวหิน ผ่าตัดทั้งหมด 4 ครั้ง แล้วก็มีการศัลยกรรมใบหน้าเพื่อให้กลับมาใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ถามว่าท้อไหม เหนื่อยไหม กว่าจะมาถึงวันนี้ กว่าจะผ่านทุกอย่างมาได้ ตนต้องอดทน ต้องเข้มแข็ง เคยร้องไห้ แต่ไม่เคยร้องไห้ให้ลูกเห็น และคิดว่าวันพรุ่งนี้ถ้าผลคำตัดสินออกมาในทิศทางที่ตนหวังไว้ ก็เชื่อว่า ทุกๆ คนที่คอยส่งกำลังใจก็จะดีใจไปกับตนและน้องจูนด้วย

สุดท้าย ตนอยากจะบอกลูกว่า…

“จูนเข้มแข็งมาก สู้มาก แม่รู้ว่าจูนรักแม่ เรามองตากันเราก็รู้ใจกัน ดีใจที่เราได้ชีวิตลูกเรากลับคืนมา”

ด้านน้องจูน ก็เผยว่า วันตัดสินคดี เป็นวันที่เราสองคนแม่ลูกรอคอย เพราะตนรู้ว่าที่ผ่านมาแม่ต้องลำบากขนาดไหน ก็เชื่อว่า วันพรุ่งนี้ความยุติธรรมต้องมีอยู่จริง

ส่วนชีวิตตน ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ถามว่ามีความเปลี่ยนแปลงไหม มันก็มีบ้างเล็กน้อย เพราะว่าหลังจากที่อาการดีขึ้น ตนก็กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม เพียงแต่การพูด การคิด ตนอาจจะคิดช้า คิดไม่ทัน บางครั้งต้องถามแม่ก่อนว่า แบบนี้ทำได้ไหม อะไรทำไม่ได้

“ตอนที่รักษาตัวอยู่ ก็คิดแค่ว่าอยากหาย กลับมาทำงานได้ ไม่เป็นภาระของแม่ มันดีที่สุดแล้ว”

ส่วนเรื่องที่ตนถูกทำร้าย ก็คิดว่ามันเป็นเพราะตน เพราะตนไม่ยอมเซ็นใบหย่าให้เขา เลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แล้วก็คิดว่า ชาติที่แล้วเราอาจจะไปทำร้ายเขาก่อน ชาตินี้เขาถึงมาทำร้ายเราคืน ตนคิดแค่นี้ ไม่อยากให้เป็นเวรกรรมติดกันไปชาติหน้า อยากให้มันจบแล้ว

เมื่อถามว่า จูนอยากเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนไหม?

จูนบอกว่า ยัง เพราะตอนที่ตนเจ็บ ตนมีแค่แม่ที่อยู่ข้างๆ ถ้าตนจะมีรักใหม่ตนต้องรักแม่ให้มากพอ รักแม่ให้มากที่สุดก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้งถ้าหากว่ามีใครเข้ามา ก็ต้องรับเราได้ รับเราได้ที่เราเป็นแบบนี้ พูดคุยกับเรารู้เรื่อง ตนไม่ได้เข็ดกับความรัก แต่ถ้าจะมีใหม่ต้องดูให้ดีกว่าเดิม ต้องผ่านแม่ด้วย เพราะคนก่อเหตุเราตัดสินใจเอง เราไม่เชื่อแม่ ถ้าย้อนกลับไปได้ จะย้อนไปเชื่อฟังแม่ เพราะตอนที่คบกับคนที่เป็นคู่กรณี แม่เตือนแล้วแต่ตนไม่ฟัง

จนถึงตอนนี้อยากบอกแม่ว่า…

“จูนรักแม่มาก แม่รักจูนมากแค่ไหนจูนก็รู้ ไม่ต้องพูดอะไรเรามองตาก็รู้กัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราสู้ เราผ่านมันมาด้วยกันตลอด ถ้าไม่มีแม่จูนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ดีใจที่จูนมีแม่ที่รักจูน”

จันชื่นชมในความเข้มแข็งและอดทนของน้องจูนจับและเก่งมากๆ ค่ะ การรอคอยสำหรับคนรอเราต่างรู้ดีว่ามันช่างนานแสนนาน เกือบ 5 ปีที่แม่เก่งและน้องจูนเฝ้ารอวันตัดสินคดี พรุ่งนี้ (11 พ.ย. 64) ความยุติธรรมจะมีจริงไหม? คนก่อเหตุจะได้ชดใช้กรรมที่ได้ก่อไว้กับผู้หญิงหนึ่งคนหรือไม่? ติดตามคำพิพากษาไปพร้อมกับ อีจัน

จันขอเป็นกำลังใจให้แม่เก่งและน้องจูนนะคะขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีนะ