ต้องนอนคุกยาวๆ จนกว่าคดีจะสิ้นสุด “ไอ้ตูน” ผู้ต้องหาก่อเหตุ ปลอมเฟสบุ๊ก นำรูปผู้ชายหน้าตาดีมาใช้ เเล้วพูดคุยตีสนิท เเล้วล่อลวงให้เด็กหญิง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ชั้นประถม เเละมัธยมต้น ให้ถ่ายคลิปอนาจาร เเล้วนำคลิปเหล่านั้น กลับไปเเบล็กเมล์ ข่มขู่ว่าจะส่งคลิปให้กับพ่อเเม่ ครู เเละเพื่อนๆ รวมทั้งนำคลิปไปเผยเเพร่ให้อับอาย หากไม่ยอมไปร่วมหลับนอนกับผู้ชาย ที่ “ไอ้ตูน” อ้างว่าติดหนี้อยู่ ซึ่งเเท้จริงเเล้ว คือ “ไอ้ตูน” ตัวจริงนั้นเอง เหยื่อเล่าว่า เธอถูก ข่มขืน เเบบทารุณกรรม
เหยื่อชั้น ม.2 ถูกกระทำตั้งเเต่เธออยู่ ม.1 เเละถูกบังคับให้ไปหลับนอนกับผู้ชายเพื่อใช้หนี้ให้ “ไอ้ตูน” เเต่สุดท้ายเธอก็มารู้จนได้ว่า ผู้ชายที่เธอคุยในเฟสบุ๊ก เเท้จริงเเล้วคือ “ไอ้ตูน” อวตารมา ทั้งถูก ข่มขืน เเบบทารุณกรรม เพราะ “ไอ้ตูน” มีอารมณ์ เเละพฤติกรรมทางเพศรุนเเรง เเต่ละครั้งก็ถูกถ่ายคลิปเก็บไว้ เเล้วนำกลับมาข่มขู่ จนเธอไม่สามารถหลีกหนีไปจากบ่วงนี้ได้เลย สภาพกายใจที่บอบช้ำ ไม่รู้จะหันหน้าหาใคร ไม่กล้าบอกพ่อเเม่ เพราะอยู่ในครอบครัวที่มีปัญหา ไม่กล้าพบเจอใคร เพราะระเเวงว่า คนที่เธอพบเจอ จะได้เห็นคลิปลับนั้นหรือไม่ จนทำให้เธออยากจบชีวิต จนเธอได้พบกับเเม่ของเด็กหญิงวัย 11 ปี ที่เหมือนจะมีชะตากรรมเดียวกัน
เม่ของเด็กหญิงวัย 11 ปี พาลูกสาวเข้าร้องเรียนกับ ศูนย์ดำรงธรรมเมืองโคราช ว่าลูกสาวถูก ไอ้ตูน อวตารเฟสบุ๊กมาล่อลวงให้ถ่ายคลิปอนาจาร ยังไม่ถึงขั้นลวงไปข่มขืน เด็กหญิงวัย 11 บอกเเม่ว่า มีเด็กหญิงที่โดนกนะทำเหมือนเธอ เเม่จึงตามหาพบกับเหยื่อ ม.2 กระบวนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเมืองโคราชจึงเริ่มขึ้น เมื่อพยานหลักฐานครบ จึงขออนุมัติหมายศาล เพื่อเข้าจับ “ไอ้ตูน” ในความผิด 7 ข้อหา คดีทางเพศต่อเด็ก เเละประสานชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เข้าจับกุมได้คาบ้านพัก พบหลักฐานเป็นคลิปอนาจารเด็กหญิงเพียบ
งานนี้ ผู้ว่าฯ โคราช บัญชาการลงพื้นที่ไปจับกุมด้วย “บอกเอาตัวมันไปดำเนินคดี ทำเเบบกับผู้หญิง ซ้ำเป็นเด็ก ทำได้อย่างไร” ชุดจับกุมรวมทั้ง กำลังของ เจ้าหน้าที่ อาสารักษาดินเเดน เมืองโคราช คุมตัวไอ้ตูน ไปสอบต่อที่ศูนย์ดำรงธรรม ตรวจสอบหลักฐานในคอมฯ โทรศัพท์ พบคลิปอนาจารเด็กหญิงจำนวนมาก ซึ่งไอ้ตูนบอก หลอกเด็กไม่ต่ำกว่า 10 คน ทำบันทึกจับกุมเสร็จ พาไปส่งตำรวจ จำรวจสอบขยายต่อ ส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง ค้านประกันตัว
ล่าสุดศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ไอ้ตูน” นอนคุกยาวๆ จนกว่าคดีจะสิ้นสุด เเละหากไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ ต้องติดคุกต่อ ขณะเดียวกัน ผู้ว่าฯ โคราช ก็สั่งทีมสหวิชาชีพ เเละทีมเยียวยา มีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม เป็นเฮดเดินทางเข้าพบเหยื่ออยู่ในความดูเเลได้เเล้วหนึ่งคน ส่วนอีกคนคือ เด็กหญิงมัธยมวัย 14 ที่ยังไม่ยอมพบใคร นอกจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่เธอไว้ใจเท่านั้น เรื่องของบาดเเผลในจิตใจของเหยื่อซึ่งเป็นเด็ก เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่สุด เพราะไม่มีใครเห็นรอยเเผล ไม่มีใครรู้ว่ามันบาดลงไปลึกเเค่ไหน เจ้าหน้าที่กำลังวางเเผนเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
