
ผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่ออายุครบ 55 ปี และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง หรือเมื่อเป็นผู้ทุพพลภาพหรือเสียชีวิต สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ได้แก่ บำเหน็จชราภาพ และบำนาญชราภาพ
ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้แจ้งถึงการจ่ายประโยชน์ทดแทนบำนาญชราภาพ ว่า ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมได้เปลี่ยนแปลงระบบการจ่ายประโยชน์ทดแทนบำนาญชราภาพให้กับผู้ประกันตน ได้รับสิทธิได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
จากเดิมโอนเงินให้ผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพในเดือนถัดไป เปลี่ยนเป็นโอนเงินของเดือนที่ได้รับสิทธิ ในวันที่ 25 ของทุกเดือน แต่หากวันที่ 25 ตรงกับวันหยุดราชการ สำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินให้ในวันทำการก่อนวันหยุดราชการ 'แบบจ่ายเดือนตรงเดือน' โดยเริ่มตั้งแต่ เดือน มิ.ย.66 เป็นต้นไป
สำหรับผู้ที่มีสิทธิรับบำนาญชราภาพเดิม จะได้รับเงินบำนาญชราภาพในวันที่ 23 มิ.ย.66 เป็นจำนวน 2 เดือน คือ สิทธิของเดือน พ.ค.-มิ.ย.66 และสำหรับผู้มีสิทธิรับบำนาญชราภาพรายใหม่ ที่ได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 4 ของเดือน จะได้รับสิทธิในงวดเดือนนั้น แต่หากมีการอนุมัติหลังวันที่ 4 ของเดือน จะได้รับสิทธิในเดือนถัดไปรวมงวดเดือนปัจจุบันอีกด้วย
ทั้งนี้ นายบุญสงค์ กล่าวว่า เงินบำนาญชราภาพ คือ เงินที่สำนักงานประกันสังคมจ่ายให้ผู้ประกันตนเป็นรายเดือนตลอดชีวิต โดยมีเงื่อนไขการเกิดสิทธิ ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง ผู้ประกันตนจะได้รับบำนาญชราภาพในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
หากส่งเงินสมทบเกิน 180 เดือน จะได้รับบำนาญชราภาพเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน ก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง ในกรณีผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิตภายใน 60 เดือน (5 ปี) นับจากเดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ทายาทผู้มีสิทธิจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับเดือนสุดท้ายก่อนเสียชีวิตคูณด้วยจำนวนเดือนที่เหลือหลังจากผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายจนครบ 60 เดือน
หากผู้ประกันตนมีคุณสมบัติครบตามข้อกำหนดของการขอรับเงินชราภาพดังกล่าวข้างต้น สามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนผ่านระบบ e-Self Service ที่ www.sso.go.th และขอรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวประชาชน หากมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ หรือ สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ